ผมมาเพื่อคว้าแชมป์

วันศุกร์ที่ 06 มิถุนายน 2568 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
460
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ฟุตบอลเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เลียม ดีแล็ป มาโดยตลอด และบางทีนั่นอาจเป็นสาเหตุตัวเขาไม่รู้สึกหวั่นไหว เมื่อรู้ว่าเกมนี้ต้องการอะไร เข้าใจถึงความคาดหวัง ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกพร้อมสำหรับ เชลซี

    ตาข่ายประตูฝั่งหน้าอัฒจันทร์ แม็ทธิว อาร์ดิ้ง สแตนด์ สั่นไหว - เลียม ดีแล็ป หันหลังให้ประตูเตรียมรับบอลลูกต่อไป และส่งบอลสู่ก้นตาข่าย ทำมันอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ในขณะที่มีการถ่ายภาพและวิดีโอ

    เทคนิคนี้เป็นสิ่งที่เหล่ากองหน้าคุ้นเคย แต่ความพยายามครั้งหนึ่งพุ่งชนคานประตูอย่างแรง ความผิดพลาดนั้นคือสิ่งที่ ดีแล็ป นึกคิดหลังจากสับไก มันคือหน้าต่างสู่ความคิดที่แน่วแน่ของแข้งที่ทำไป 12 ประตูใน พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

    ปีแรกกับผลงานอันโดดเด่นเมื่อมองที่ต้นสังกัดอย่าง อิปสวิช ที่ถูกมองเป็นตัวเต็งที่จะตกชั้นอยู่แล้ว ไม่แปลกที่เขาจะได้รับความสนใจจากสโมสรดังร่วมลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี ซึ่งแน่นอนว่านั่นไม่ใช่ความบังเอิญ แต่มันคือการทำงานด้วยความทุ่มเทและหนักหน่วงตลอดหลานปีที่ผ่านมา มันเป็นการเดินทางที่มีความสำคัญ

    "มันเป็นงานที่ต้องทำตลอดชีวิต นับตั้งแต่ผมอายุ 8 หรือ 9 ปี ผมโฟกัสที่ฟุตบอล ผมไม่เคยต้องการอะไรอย่างอื่นเลย และผมก็ทุกเททุกอย่างที่ผมทำได้เมื่อให้มันเป็นจริงขึ้นมา" ดีแล็ป เอ่ย


    "มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานและหนักน่วง และสิ่งต่างๆ ก็อาจจะยากสำหรับคุณ แต่ผมสนุกกับมันอยู่เสมอ ผมรักฟุตบอลมากๆ ผมก็คงยังเล่นกับเพื่อนๆ ถ้าไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพ"

    "โชคดีที่ผมทำได้สำเร็จ และผมยินดีเป็นอยน่างยิ่งที่งานหนักที่ทำได้ผลและตอนนี้ผมได้มาอยู่กับ เชลซี"

    ดีแล็ป เดินเคียงข้าง เฮเลน และ รอลี่ - แม่และพ่อตลอดการถ่ายทำที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ แน่นอนว่าแฟนฟุตบอลรู้จักพ่อของเขาเป็นอย่างดีกับการค้าแข้งยาวนานกว่า 20 ปี และอยู่ใน พรีเมียร์ลีก นาน 14 ปี ร่วมกับทีมอย่าง ดาร์บี้, เซาธ์แฮมป์ตัน และ สโต๊ค ซิตี้

    "ความทรงจำเกี่ยวกับฟุตบอลในช่วงแรกของผมคือการดู พ่อ เล่น - ลูกทุ่มอันทรงพลังกับ สโต๊ค ซิตี้ ที่ บริทานเนีย! เราพยายามไปดูเกมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งผมได้ไปดูเกือบครบทุกเกมเลย"

     "มันทำให้ผมรู้สึกราวกับเป็นนักฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก มันเหลือเชื่อมากและเป็นสิ่งที่ผมอยากจะเป็น แต่ผมก็รู้ว่ามันจะไม่ง่าย ผมต้องทำงานหนักเพื่อมัน"


    "ผมเป็นหนี้บุญคุณทั้งแม่และพ่ออย่างมาก ผมมีน้องชายและน้องสาว ซึ่งในขณะที่พ่อยังค้าแข้งอยู่ แม่ก็สำคัญมากที่คอยสร้างสมดุลให้เราและทำให้แน่ใจว่าเราจะมาถึงจุดที่เราอยู่ทุกวันนี้"

    "ผมคงตอบแทนพวกเขาได้ไม่หมด แต่ผมแน่ใจว่าพวกเขาภูมิใจมาก และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข"

    เส้นทางฟุตบอลของ เลียม เริ่มต้นจากอะคาเดมี่ของ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ - เขาใช้เวลาเกือบทศวรรษกับสโมสรก่อนจะย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2019 ซึ่งที่นั่นเขากลายเป็นเพื่อนร่วมทีมของ โรเมโอ ลาเวีย และ โคล พาล์มเมอร์ และได้รับการฝึกสอนโดย เอ็นโซ่ มาเรสก้า ในฤดูกาล 2020/21

    ด้วยพลังในการทำประตูของ ดีแล็ป - เขากด 24 ประตูจาก 20 เกม ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 เป็นครั้งแรก เขายังได้ประเดิมสนามให้กับทีมชุดใหญ่และทำประตูได้ในเกม คาราบาว คัพ ที่เจอกับ บอร์นมัธ


    อย่างไรก็ตามกับการมี เซร์คิโอ อเกวโร่ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่เป็นกองหน้าตัวหลักของ "เรือใบ" แน่นอนว่านั่นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย - ในส่วนของข้อดีคือเขาได้เรียนรู้จากยอดดาวยิงของโลก และมันก็ขวางโอกาสในการลงสนามเช่นกันทำให้เขาถูกปล่อยให้หลายทีมใน แชมเปี้ยนชิพ ยืมตัวทั้ง สโต๊ค ซิตี้, เปรสตัน และ ฮัลล์ ซิตี้

    "ผมเคยไปเล่นแบบยืมตัวอยู่บ้างและผมก็ได้เรียนรู้มากมายในช่วงเวลานั้น คุณเป็นคนที่จะผสมผสานประบการณ์ต่างๆ เหล่านี้เข้าด้วยกัน ดังนั้นผมนำประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ จากทุกที่ที่ไปร่วมทีมเป็นหนึ่งเดียว ผมเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสม"

    ซัมเมอร์ที่แล้ว ดีแล็ป ตัดสินใจครั้งสำคัญในอาชีพด้วยการย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปร่วมทีม อิปสวิช ทาวน์ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก และที่นี่เขาได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอและเขาก็แสดงผลงานอย่างเต็มที่

    ดีแล็ป กลายเป็นที่จับตาในทันทีเมื่อจัดการทำ 6 ประตูจาก 11 เกมแรก รวมประตูชัยในเกมเยือน สเปอร์ส และประตูที่ 7 ของเขาคือการยิงใส่ เชลซี ที่ทีมชนะ 2-0 ที่ พอร์ทแมน โร้ด ก่อนที่จะกดอีก 5 ลูก รวมเป็น 12 ประตู

    "สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมในเมื่อซัมเมอร์ที่แล้วคือการไปที่ที่ผมสามารถลงเล่นสม่ำเสมอ นั่นคือโอกาสที่ผมรู้สึกว่าผมต้องการ เพื่อแสดงผลงานละแสดงให้เห็นว่าผมคือผู้เล่นแบบไหน - อิปสวิช มอบโอกาสนั้นให้กับผมซึ่งมันสำคัญมาก และผมก็รู้สึกขอบคุณมากสำหรับโอกาสนี้"


    กับ เชลซี ดีแล็ป จะมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อ "สิงห์บลูส์" ได้กลับไปเล่นในเวที แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง ซึ่งเป็นการแข่งขันที่สโมสรเคยคว้าแชมป์มาแล้วสองครั้ง และทีมก็ไม่เคยหยุดที่จะไล่ล่าแชมป์เพิ่ม นั่นคือสิ่งที่แข้งทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปีคนนี้รู้ดี เขาเข้าใจประวัติศาสตร์

    "การเติบโตมาโดยได้ดูสโมสรแห่งนี้ทำให้ผมเข้าใจถึงสถานะของสโมสรและความน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา"

    "ผมต้องการมาที่นี่เพื่อคว้าถ้วยรางวัล เมื่อผมได้พูดคุยกับสโมสร ทุกคนต้องการกลับสู่จุดสูงสุดให้ได้ และพวกเขามีศักยภาพและผู้เล่นที่จะทำแบบนั้นได้ ความกระหายและความปรารถนาที่จะเพิ่มถ้วยรางวัล เพื่อนำสโมสรกลับสู่จุดที่ควรจะเป็น นั่นคือเป้าหมายหลัก"

    ตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เชลซี เหมือนต้องคำสาปกับนักเตะกองหน้าเบอร์ 9 ที่เข้ามาและล้มเหลวทั้งที่ชื่อชั้นเข้าขั้นระดับโลกทั้ง เอร์นาน เกรสโป, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ราดาเมล ฟัลเกา, อัลบาโร่ โมราค้า, กอนซาโล่ อีกวาอิน, แทมมี่ อบราฮัม และ โรเมลู ลูกากู ก็รอดูกันว่า เลียม ดีแล็ป จะทำลายคำสาปนี้ได้รึเปล่า

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด