ทันทีที่เซ็นสัญญากับสโมสรอย่างเป็นทางการในวันทรี่ 2 กรกฎาคม, เอ็นโซ่ มาเรสก้า ก็จัดการเรียกสตาร์ชาวบราซิล รายนี้เข้ามาอยู่ในทีมที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับเกมรอบก่อนรองชนะเลิศในทันที
แน่นอนว่าเขาไม่ได้ทำให้เจ้านายผิดหวังเลย หลังจากที่ลงเล่น 36 นาทีในเกมที่ทีมชนะ พัลเมรัส 2-1 จากนั้นในรอบรองชนะเลิศแข้งวัย 23 ปี ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงพร้อมยิง 2 ประตูสุดสวยให้ทีมชนะ ฟลูมิเนนเซ่ 2-0
และในรอบชิงชนะเลิศเขาก็หลุดชิบบอลข้าม จานลุยจิ ดอนนารุมม่า เป็นประตูที่ 3 ในเกมที่ทีมถล่ม 3-0 พร้อมคว้าแชมป์ไปครอง
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเซ็นสัญญาเขายังพักร้อนที่ บราซิล อยู่เลย!
แต่วันนี้เขาคือนักเตะแชมป์สโมสรโลก พร้อมกับจำนวนประตู 3 ลูกเท่ากับ โคล พาลเมอร์ เป็นดาวยิงสูงสุดของสโมสรในรายการนี้ไปเลย
ทว่าทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นเพราะคช่วย แต่มันมาจากการผลักดันและสนับสนุน ไม่ใช่แค่ของตัวเขาเองเท่านั้น แต่รวมถึงคนในครอบครัวโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฟลาเวีย แม่ของเขา ที่ทำให้มีวันนี้ ไม่อย่างนั้นอย่าว่าแต่ได้มาอยู่ "สิงห์บูส์" และได้ชูถ้วยแชมป์สโมสรโลก เขาอาจจะไม่ได้เป็นนักฟุตบอลถ้วยซ้ำ
"ครอบครัวมีความหมายกับผมอย่างมาก โดยเฉพาะคุณแม่ เพราะผมมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงเริ่มต้นอาชีพซึ่งแม่ก็อยู่เคียงข้างผมเสมอ ถ้าไม่มีแม่ค่อยอยู่ตรงนั้นเพื่อผม ผมคงมาไม่ถึงจุดนี้"
"ดังนั้นสิ่งแรกที่ผมทำเมื่อเข้าไปในห้องแต่งตัวคือโทรหาแม่ เพราะแม่สำคัญกับผมมาก และผมรู้ว่าแม่มีความสุขแค่ไหนที่เราคว้าแชมป์นี้ได้"
ชูเอา เปโดร ยังพูดถึงการมาร่วมทีม เชลซี ว่า "ผมมีความสุขมากเพราะผมกำลังพักร้อยและพวกเขาก็เรียกตัวผมมาร่วมทัวร์นาเม้นต์ และใน บราซิล การแข่งขันนี้มีความหมายอย่างมาก ผมคิดว่าคุณคงเห็นแล้วในนัดชิงชนะเลิศว่ามันสำคัญกับทุกคนที่ เชลซี มากแค่ไหน"
"นี่เป็นกลุ่มที่ดีมากๆ และมีคนเก่งมากมาย ทุกคนต้องการแชมป์ แนวคิดที่ยอดเยี่ยม ทุกคนให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี"
"ผมมาที่ เชลซี เพื่อคว้าแชมป์ และวันนี้เราก็ทำมันได้สำเร็ต ตอนนี้เราต้องพักก่อนจะลุยฤดูกาลใหม่ แต่เราจะสนุกกับมันก่อนเพราะเราคว้าแชมป์มาครอง"
การได้แชมป์ถือเป็นเรื่องที่น่าเซอไพรส์เหมือนกันเมื่อมองจากคู่แข่งอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แชมป์ยุโรปทีมล่าสุดที่รอบก่อนหน้าถล่ม เรอัล มาดริด มาขาดลอย และตลอดทัวร์นาเม้นต์นี้เสียไปเพียงแค่ประตูเดียวเท่านั้น
"เปแอสเช เป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก - พวกเขาเป็นทีมที่น่าทึ่งแต่เราก็รู้ถึงพลังที่เรามีเช่นกัน เราทีมที่ทีมยอดเยี่ยมและเราแค่ต้องเล่นเกมให้เต็มที่ และท้ายที่สุดแล้ว เรามีความสุขกับชัยชนะ"
ก่อนเริ่มต้นซีซั่นใหม่ เชลซี ยังมีโปรแกรมอุ่นเครื่องอีก 2 เกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ คือเจอกับ เลเวอร์คูเซ่น วันที่ 8 สิงหาคม และ เอซี มิลาน วันที่ 10 สิงหาคม และจะเปิดซีซั่นอย่างเป็นทางการด้วยการเปิดบ้านเจอกับ คริสตัล พาเลซ ทีมแชมป์ เอฟเอ คัพ วันที่ 17 สิงหาคม
หวังว่า ชูเอา เปโดร จะช่วยทีมประสบความสำเร็จในรูปแบบของถ้วยรางวัลอีกครั้ง
