ลีวาย โควิลล์
ลงสนาม : 43 (สตาร์ทตัวจริง 40 เกม)
นาทีลงเล่น : 4,152
ประตู : 2
แอสซิสต์ : 2
ถือเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมของ ลีวาย โคลวิลล์ ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเกือบทุกนัดในลีก โดยพลาดไปแค่ 3 เกมเท่านั้น และยังลงเล่น 5 จาก 7 เกมในเวที ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ด้วย รวมถึงนัดชิงชนะเลิศที่จัดการ อุสมาน เดมเบเล่ จนหายจากเกม
ความนิ่งในการครองบอลซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเกม โคลวิลล์ จึงปรับตัวเข้ากับระบบจ่ายบอลจากแนวหลังของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ได้เป็นอย่างดี แถมยังมีประตูสำคัญในวันสุดท้ายของฤดูกาลที่เจอกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ช่วยทีมการันตีไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าด้วย
ด้วยวัยเพียง 22 ปี กับการลงเล่นให้ทีมไปแล้ว 75 เกม หวังว่าฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาถึงจะยังรักษามาตรฐานแบบเดิมและทำให้ดีขึ้นไปอีก
โทซิน อดาราบิโอโย่
ลงสนาม : 41 (สตาร์ทตัวจริง 33 เกม)
นาทีลงเล่น : 3,337
ประตู : 5
แอสซิสต์ : 1
ปีแรกกับการย้ายมาค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ แบบไม่มีค่าตัวเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม กับการลงเล่นทั้ง 5 รายการให้กับสโมสร ทำได้ 5 ประตู
5 จาก 6 เกมสุดท้ายใน พรีเมียร์ลีก จบด้วยการพาทีมเก็บคลีนชีต และโชว์ฟอร์มอย่างน่าประทับใจในเกมสุดท้ายของฤดูกาลที่ ซิตี้ กราวน์ด - การเข้าบล็อกที่ยอดเยี่ยมในเกมที่ กูดิสัน พาร์ค ก่อน คริสมาสต์ ช่วยทีมเก็บหนึ่งคะแนนสำคัญ
นอกจากนี้เขายังเป็นตัวจริง 12 เกมใน ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ช่วยทีมคว้าแชมป์มาครองได้ และยังมีส่วนสำคัญกับแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ด้วย
เทรโวห์ ชาโลบาห์
ลงสนาม : 24 (สตาร์ทตัวจริง 19 เกม)
นาทีลงเล่น : 1,916
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 2
การกลับมาของ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ในเดือนมกราคม หลังถูกปล่อยให้ คริสตัล พาเลซ ใช้งานตั้งแต่ซัมเมอร์เพิ่มความแข็งแกร่งในเกมรับให้กับ เชลซี อย่างไม่ต้องสงสัย
ความเข้าใจในเกม พรีเมียร์ลีก ของ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ไม่มีปัญหา หลังการบาดเจ็บของ เวสเล่ย์ โฟฟานาา และ เบอนัวต์ บาเดียชิลล์ และเขายังได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ ในเกมแรกที่กลับมานัดเจอ วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วย
แข้งจากอะคาเดมี่ของสโมสรแสดงให้เห็นถึงความสามารถรอบด้านด้วยการขยับไปยืนแบ็กขวาเป็นครั้งคราว และปิดฉากด้วยการเป็นตัวจริงในเวทีสโมสรโลกตั้งแต่รอบก่อนรองชนะเลิศไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศและคว้าแชมป์ในที่สุด
เบอนัวต์ บาเดียชิลล์
ลงสนาม : 22 (สตาร์ทตัวจริง 20 เกม)
นาทีลงเล่น : 1,889
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
เป็นกำลังสำคัญของทีมในเวที ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ด้วยการลงเล่น 13 จาก 22 เกม ที่ทีมก้าวไปจนถึงตำแหน่งแชมป์
น่าเสียดายที่เจอกับอาการบาดเจ็บทำให้ฟอร์มที่กำลังดีสะดุดไป และหลุดจากตำแหน่งตัวจริงไปแม้ว่าจะหายกลับมาแล้ว แต่เขาก็กลับมาอยู่ในทีมลุยสโมสรโลก และได้ลงเล่นเจอกับ อีเอส ตูนิส เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มและเจอ เบนฟิก้า ในรอบ 16 ทีม
เวสเล่ย์ โฟฟาน่า
ลงสนาม : 14 (สตาร์ทตัวจริง 14 เกม)
นาทีลงเล่น : 1,309
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
เป็นอีกปีแห่งความยากลำบาก หลังจากที่ออกสตาร์ทอย่างยอดเยี่ยมในฐานะตัวจริงในลีก 12 จาก 13 เกมแรก ในช่วงเวลาที่ทีมขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของลีก และถูกมองว่าอาจจะทำเซอร์ไพรส์ขึ้นมาแย่งแชมป์ได้
น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บหนักที่้เอ็นร้อยหวายจากเกมชนะ แอสตัน วิลล่า ในเดือนมกราคมทำให้เขาต้องพักรักษาตัวนานกว่า 3 เดือน แม้จะหายกลับมาและลงเล่นได้แต่สุดท้ายก็เจ็บซ้ำอีก และต้องผ่าตัดเอ็นร้อยหวายจนต้องพักช่วงที่เหลือของฤดูกาล และไม่มีส่วนร่วมใน ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ
มามาดู ซาร์
ลงสนาม : 1
นาทีลงเล่น : 15
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
หนึ่งในผู้เล่นป้ายแดงที่มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา และอยู่ในทีมลุยฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ในทันที โดยประเดิมสนามให้กับทีมในฐานะตัวสำรองเกมที่ทีมชนะ อีเอส ตูนิส 3-0 อยู่ในสนามไป 8 นาที โดยสโมสรตัดสินใจส่งให้ สตราส์บูร์ก ทีมเก่ายืมตัวใช้งานก่อนอีกสักปี
อารอน อันเซลมิโน่
ลงสนาม : 1
นาทีลงเล่น : 3
ประตู : 0
แอสซิสต์ : 0
แนวรับวัย 20 ปี กลับมาจากยืมตัวกับ โบคา จูเนียร์ส ตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ว่าก็ไม่ได้มีโอกาสลงสนามให้กับทีมในฤดูกาล 2024/25 โดยได้ลงเล่น 2 นาที ในฐานะตัวสำรองในเกม ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ที่เจอกับ เบนฟิก้า ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หรือเรียกได้ว่าถูกส่งลงในช่วงที่ไม่มีผลอะไรแล้วเพราะทีมนำห่าง 4-1 แล้ว
