กดดันตั้งแต่เริ่ม

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2568 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
218
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ท็อดด์ ไคลน์ อดีตประธานสโมสรของ สเปอร์ส เข้ามารับงานฝ่ายพาฌิชย์ของ เชลซี พร้อมกับความกดดันอย่างหนักในการเซ็นสัญญากับสปอนเซอร์เสื้อแข่งของสโมสร

    "สิงห์บลูส์" ประกาศว่า แคสเปอร์ สไตล์สวิค ผู้บริหารชาวเดนมาร์ก ลาออกจากตำแหน่งไป โดยมีข่าววงในระบุว่าสาเหตุหลักคือการที่ไม่สามารถหาสปอนเซอร์เสื้อแข่งให้กับสโมสรได้

    ถือเป็นเรื่องที่ผิดปกติเหมือนกันที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับสโมสรอย่าง เชลซี ที่เรียกได้ว่าเป็นสโมสรใหญ่ระดับยุโรปและปีนี้พวกเขาก็แข่งขันในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่กลับไร้สปอนเซอร์สนับสนุนบนเสื้อแข่ง

    มีรายงานว่าพวกเขาเรียกร้องเงินที่ราว 60-65 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งจะว่าไปก็ต้องบอกว่าไม่ได้สูงอะไรมากมายนัก

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของสโมสรที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเนื่องจากเมื่อฤดูกาลที่แล้วพวกเขาก็ไม่มีสปอนเซอร์และที่เห็น "DAMAC" ที่อยู่บนเสื้อช่วงท้ายมาจากการเซ็นสัญญาระยะสั้นช่วง 7 เกมสุดท้ายของฤดูกาลเท่านั้น


    ขณะที่ "Infinite Athlete" ที่เป็นผู้สนับสนุนทีมตลอดฤดูกาล 2023/24 ก็เซ็นสัญญากับเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นและไม่ได้มีการขยายเวลาออกไป

    นี่เป็นการปรับโครงสร้างผู้บริหารระดับสูงครั้งที่สองของเชลซีในรอบหนึ่งปี

    ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน 2024 - คริส ยูราเซ็ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารก็ลาออกหลังทำงานอยู่เพียง 15 เดือน

    เจสัน แกนน่อน ที่ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการอยู่แล้ว ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานสโมสรในเวลาต่อมา และทำหน้าที่ซีอีโอมาโดยตลอด


    กับการปรับโครงสร้างครั้งใหม่ เจมี่ เมอร์เรย์ อดีตผู้บริหารของ เอซี มิลาน และ อาร์เซน่อล ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ส่วน ฟิล ลินช์ อดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เพิ่มตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลให้กับตำแหน่งการตลาดและหน้าที่อื่นๆ ร่วมด้วย

    สิ่งที่แฟนบอล เชลซี อาจจะอยากเห็นคือการซื้อชุดแข่งใหม่ในวันคริสมาสต์และมีสปอนเซอร์อยู่บนหน้าอกด้วย ซึ่งนั่นคือภารกิจเร่งด่วนของ ท็อดด์ ไคลน์ ที่มาอยู่กับทีมตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน และถูกดันขึ้นมา

    ประวัติการทำงานของเขารวมถึงการคว้าสิทธิ์การตั้งชื่อสนาม ฮาร์ดร็อค ให้กับ ไมอามี โดลฟินส์ ในศึก เอ็นเอฟแอล ในปี 2016 ซึ่งในขณะนั้นเงิน 180 ล้านปอนด์ ถือเป็นหนึ่งในสปอนเซอร์รายใหญ่ที่สุดในยุคนั้น รวมถึงการทำงานกับ สเปอร์ส ที่ทาง ท็อดด์ ไคลน์ ดูแลเรื่องรายได้ให้กับ "ไก่เดือยทอง"


    แน่นอนว่า เชลซี ก็หวังว่าเขาจะช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จในการหาสปอนเซอร์ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งมันแอบมีเงื่อนไขไม่ใช่แค่เรื่องเงินเพียงอย่างเดียว แต่อยากให้ข้อตกลงนี้ต้องมีศักยภาพที่จะก้าวข้ามชื่อบนชุดแข่งจำลอง และสอดคล้องกับค่านิยมของสโมสรด้วย

    แม้ว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นที่นำโดย ท็อดด์ โบห์ลี่ กับ เบห์ดาด เอ็กห์บาลี่ รวมกับกลุ่มทุนอย่าง เคลียร์เลค แคปิตอล จะร่ำรวยมหาศาล แต่นี่ไม่ใช่องค์กรการกุศล ค่าใช้จ่ายอันมหาศาลของสโมสรยังรออยู่

    มหาเศรษฐีผู้นี้ให้ความสนใจอย่างมากในทุกด้านของธุรกิจ ไม่เพียงแต่การเพิ่มมูลค่าของสปอนเซอร์เสื้อแข่งให้สูงสุดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และนั่นคืองานหนักที่ ท็อดด์ ไคลน์ ต้องทำให้สำเร็จเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาดีพอกับตำแหน่งนี้

    ไม่อย่างนี้จบฤดูกาลเราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในงานบริหารของสโมสรอีกแน่

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด