คุยกับ คาลั่ม แม็คฟาร์เลน แห่งทีมยู-21

คาลั่ม แม็คฟาร์เลน ที่ตอนแรกทีมตั้งใจดึงมาคุมทีม ยู-19 แต่สุดท้ายถูกดันขึ้นมา และเจ้าตัวก็ประเดิมงานได้ไม่เลว พาทีมชนะ 4 เสมอ 2 จาก 6 เกมแรกของฤดูกาล
นอกจากนี้ทีมมีโปรแกรมลงเล่นใน อีเอฟแอล โทรฟี่ และที่สำคัญการกลับไปเล่นในรายการ ยูฟ่า ยูธ ลีก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 ที่ทีมเปิดบ้านชัยชนะเหนือ บาเยิร์น มิวนิค 3-2 ที่ เยอรมัน ตามด้วยการเปิดบ้านถล่ม เบนฟิก้า 5-2
และนี่คือบทสัมภาษณ์ของ คาลั่ม แม็คฟาร์เลน กับเส้นทางชีวิตในฐานะกุนซือชุดเล็กของสโมสร
ตอนนี้คุณเป็นหัวหน้าโค้ชทีมยู-21 มา 2-3 เดือนแล้ว ช่วงสัปดาห์แรกๆ ที่เชลซีเป็นยังไงบ้าง?
มันสนุกมาก แน่นอนว่ามันก็ท้าทายเช่นกัน นักเตะและทีมงานหลายคน รวมถึงตัวผมเองด้วย ไม่เคยเจอโปรแกรมการแข่งขันแบบนี้มาก่อน
มันเข้มข้นมาก คุณต้องเตรียมความพร้อมในทุก 3 วัน เว้นแต่ว่าจะมีช่วงพักเบรกทีมชาติ นั่นหมายความว่าเราต้องสร้างสรรค์วิธีการจัดกับตารางการแข่งขัน เราเน้นไปที่การเตรียมนักเตะให้พร้อม ทำให้พวกเขามีความเฉียบคม และทำให้มั่นใจว่าพวกเขาพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจสำหรับสิ่งที่รออยู่
ดังนั้น ใช่ มันยาก แต่ก็คุ้มค่า มีช่วงเวลาดีๆ เกิดขึ้นมากมายในช่วงสัปดาห์แรกๆ
มีช่วงไหนที่พิเศษมี่สุดในเวลานี้บ้างที่คุณมองย้อนกลับไปด้วยความภาคภูมิใจ?
วิธีที่เราเริ่มต้นฤดูกาลใหม่นั้นเยี่ยมไปเลย เราชนะ 3 เกมแรกในลีกซึ่งทำให้เรามีความมั่นคงมากขึ้น
ผลงานในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ชนะ 3-1) นั้นสุดยอดไปเลย การเอาชนะแชมป์เก่าฤดูกาลที่แล้วด้วยการครองเกมเหนือกว่าอย่างแท้จริง ช่วยให้นักเตะเชื่อมั่นว่าพวกเขาสามารถแข่งขันในระดับสูงสุดได้
การกลับมาหลังพักเบรกและเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม นักเตะชื่นชอบโอกาสนี้และพร้อมรับความท้าทายนี้
หลังจากนั้นฟอร์มก็ตกลงไป เราเจอกับผลงานที่น่าผิดหวังกับ อิปสวิช, นอร์แทมป์ตัน และ สโต๊ค แต่เกมกับ เบนฟิก้า ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นจุดเปลี่ยนที่แท้จริง นั่นเป็นหนึ่งในเกมที่ยากที่สุดที่คุณจะต้องเจอในระดับนี้ซึ่งผมคิดว่าเด็กๆ เล่นได้ยอดเยี่ยมมาก หวังว่าเราจะกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง
คุณเห็นพัฒนาการของทีมในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง ทั้งในการซ้อมและการแข่งขัน?
มีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่เรื่องของผลงานแต่รวมถึงวิธีรับมือกับวความคาดหวังในระดับนี้ด้วย
ไม่ใช่แค่เรื่องแท็คติกหรือคุณภาพทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวุฒิภาวะทางอารมณ์ด้วย การเรียนรู้ที่จะฟื้นตัวกลับมา เรียนรู้ที่จะปรับตัว และการจัดการจังหวะ นักเตะแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความกระหายที่จะทำให้ดีขึ้น
โปรแกรมการแข่งขันค่อนข้างอัดแน่นเลย ทั้งคุณและนักเตะรับมืออย่างไรทั้งทางร่างกายและจิตใจ?
เราต้องฉลาด คุณไม่สามารถฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ได้ทุกวัน ในเมื่อต้องลงเล่นทุก 3 วัน สิ่งสำคัญคือต้องรักษาสมดุลให้เหมาะสม ให้แน่ใจว่านักเตะได้รับการฟื้นฟูร่างกายที่จำเป็น
เตรียมตัวอย่างเหมาะสมสำหรับแต่ละความท้าทาย และรักษาสภาพจิตใจให้สดชื่น นั่นเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด แต่ก็เป็นสิ่งที่เราเติบโตขึ้นมาเป็นอย่างมากทีเดียว
คุณเจอกับโปรแกรมหนักในเวที ยูธ ลีก มาแล้ว ประสบการณ์ครั้งนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?
มันมหัศจรรรย์มาก ผมไม่เคยคุมทีมเล่นฟุตบอล ยูธ ลีก มาก่อน ดังนั้นทุกอย่างของมันจึงใหม่และน่าตื่นเต้นมากๆ
คุณภาพของคู่แข่งอยู่ในระดับท็อป การไปเยือนที่ เยอรมัน, ในสนามที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน บวกกับความกดดันที่เพิ่มขึ้นจากการเดินทางและการเป็นตัวแทนของสโมสรในเวทียุโรป มันบังคับให้นักเตะต้องเติบโตอย่างรวดเร็ว
คุณไม่สามารถพลาดได้เลยแม้แต่นาทีเดียว แค่เหม่อไป 5 นาทีก็โดนลงโทษแล้ว มันเป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมเพราะมันคือบททดสอบนักเตะและทีมงานในแบบที่คุณไม่สามารถพบเจอได้ทั่วไปกับฟุตบอลภายในประเทศ
ทีมงานที่คอยสนับสนุนอย่างแข็งขันที่ ค็อบแฮม ในเกมกับ เบนฟิก้า แล้วในส่วนของแฟนบอลนั้นสร้างความแตกต่างหรือไม่?
แน่นอนว่ามันให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริงๆ บรรยากาศยอดเยี่ยม มีพลังอยู่ที่นั่นและนักเตะก็สัมผัสถึงมันได้ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากระหว่างการแข่งขัน ผมคิดว่าเสียงเชียร์ช่วยผลักดันพวกเขาเป็นพิเศษ
บางครั้งการพลังที่เพิ่มขึ้น 5 หรือ 10 เปอร์เซ็นต์ นั้นก็สามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างมาก และในคืนนั้นผมคิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ
นักเตะบางคนได้มีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ในวันแข่งขัน คุณภูมิใจแค่ไหนที่ได้เห็นแบบนั้น?
มันเป็นหนึ่งในส่วนที่ดีที่สุดของงานนี้ การได้เห็นพวกเขาก้าวเข้ามาในสภาพแวดล้อมแบบนี้คือสิ่งที่เราต้องการ
พวกเขาทำงานหนักและได้โอกาสมากมาย เราทุกคนภูมิใจในความก้าวหน้าของพวกเขาและเราจะเดินหน้าสนับสนุนพวกเขาเพื่อให้ก้าวต่อไป
คุณยังมีนักเตะจากอะคาเดมีที่ก้าวขึ้นมาเล่นในทีม ยู-21 ด้วย พวกเขารับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร?
ทุกคนยอดเยี่ยมมาก เรามีนักเตะจากทีม ยู-18 และแม้แต่เด็กนักเรียน 2-3 คนที่ก้าวขึ้นมาสู่ระดับนี้ โดยเล่นกับคู่แข่งที่แก่กว่า 2 หรือ 3 ปี
รุ่นพี่ในทีมทำหน้าที่กันอย่างยอดเยี่ยมในการช่วยให้พวกเขาปรับตัว คอยแนะนำรุ่นน้องตลอดการแข่งขัน และสร้างมาตรฐานที่ถูกต้อง
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการที่นักเตะเยาวชนเหล่านี้คว้าโอกาสของพวกเขาไว้ได้ พวกเขาไม่เพียงแต่ลงเล่นแทนรุ่นพี่เท่านั้น แต่พวกเขายังทำผลงานได้ดีอีกด้วย มันน่าตื่นเต้นที่ได้เห็น
คำถามสุดท้าย ในช่วงพักเบรกทีมชาติ คุณมีข้อความอะไรถึงทีมบ้าง ทั้งที่เดินทางไปกับทีมชาติและทีมที่ยังคงอยู่ที่ ค็อบแฮม?
สำหรับนักเตะที่เดินทางไปเล่นกับทีมชาติ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นตัวแทนประเทศ หลายคนมีช่วงเวลาพักเบรกทีมชาติที่ยอดเยี่ยมในนัดที่แล้ว ดังนั้นข้อความนี้จึงเรียบง่าย : จงเดินหน้าและรักษามาตรฐานขั้นสูงเอาไว้
สำหรับนักเตะที่ยังอยู่ที่สโมสร นี่คือโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่ พักผ่อน ทบทวน และเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันอีกครั้ง เพราะเมื่อเรากลับมา เกมจะเข้มข้นและรวดเร็วมาก
ไม่ว่าจะไปรับใช้ชาติหรืออยู่ที่นี่ สิ่งสำคัญคือการมีสมาธิและเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป