บรรดาสโมสรที่ร่ำรวยของยุโรปล้วนมีการทุ่มทุนมหาศาลในการเสริมทีมในแต่ละฤดูกาลเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่ในปรเทศ รวมถึงการแข่งขันระดับทวีปยุโรปที่มีถ้วยใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นรางวัลเกียรติยศและเงินรางวัลก้อนโต
หากมองในช่วงตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทีมที่ทุ่มทุนอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ลิเวอร์พูล ที่ใช้เงินไปร่วม 450 ล้านปอนด์ ดึงผู้เล่นเข้ามาใหม่ถึง 8 คน ทำลายสถิติการย้ายทีมทีเดียว 2 ครั้งกับ โฟลเรียน เวียร์ตซ์ และ อเล็กซานเดอร์ อีซัค
ในขณะที่ อาร์เซน่อล ก็เสริมความแข็งแกร่งให้ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ด้วยเม็ดเงินระดับ 250 ล้านปอนด์ ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ใช้เงินไปราว 225 ล้านปอนด์ รวมถึง นิวคาสเซิ่ล ที่มีเจ้าของทีมชาว ซาอุดิอาระเบีย อนุมิตงบไม่น้อยไปกว่า อาร์เซน่อล
ส่วนยักษ์ใหญ่ในยุโรปอย่าง เรอัล มาดริด ก็ทุ่มเทดึงแข้งอายุน้อยเข้ามาเป็นอนาคตของทีมอย่าง ดีน เฮาเซ่น, อัลลาโร่ การ์เรราส และ ฟรังโก้ มาสตานตูโอโน่
อย่างไรก็ตามจากการเปิดเผยของ ฟุตบอล ออบเซอร์เวโทรี่ ระบุว่าสโมสรที่กล่าวมาข้างต้นนั้นไม่ได้มีมูลค่านักเตะที่แพงที่สุดในโลก
แต่กลับเป็น เชลซี ของ ท็อดด์ โบห์ลี่ ที่อยู่ในตำแหน่งนั้น!
นับตั้งแต่เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเมื่อปี 2022 เจ้าของใหม่จ่ายเงินไม่อั้นเพื่อสร้าง "สิงห์บลูส์" ให้กลับมาอยู่ในระดับ "หัวแถว" ให้ได้อีกครั้ง โดยใช้เงินไปแล้;มากกว่า 1 พันล้านปอนด์
จากการเปิดเผย เชลซี มีมูลค่านักเตะในทีม 1.14 พันล้านปอนด์ เป็นทีมเดียวในลิสต์ที่มีมูลค่าแตะระดับ "พันล้าน"
การเซ็นสัญญากับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, มอยเซส ไกเซโด้, เวสเล่ย์ โฟฟาน่า และ มีไคโล มูดริค แค่ 4 คนนี้ก็ทะลุเกือบ 400 ล้านปอนด์ ยังมีพวก โคล พาลเมอร์, โรเมโอ ลาเวีย, มาร์ก กูกูเรย่า และ ชูเอา เปโดร อีก
อันดับ 2 เป็นของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ 980 ล้านปอนด์ ส่วนทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แม้จะผลงานย่ำแย่ยังมีมูลค่าทีมที่ 933 ล้านปอนด์
ลิเวอร์พูล ที่เดินหน้าเสริมทีมหนักประเมินมูลค่าที่ 928 ล้านปอนด์ และ อาร์เซน่อล ที่ 872 ล้านปอนด์
เรียกได้ว่า 5 อันดับแรกคือ 5 สโมสรใหญ่จาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทั้งหมดเลย หรือแม้แต่อันดับที่ 6 ยังเป็น สเปอร์ส ที่ 849 ล้านปอนด์ ไม่น่าแปลกใจที่คนส่วนใหญ่จะยกให้นี่เป็นลีกที่ดีที่สุดในโลกเวลานี้
ต้องมาถึงอันดับ 7 ถึงเป็นสโมสรจากประเทศอื่นซึ่งนั่นก็คือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แชมป์ยุโรปทีมล่าสุดที่มูลค่า 760 ล้านปอนด์ ตามด้วย เรอัล มาดริด 744 ล้านปอนด์, นิวคาสเซิ่ล 711 ล้านปอนด์ และ แอตเลติโก มาดริด 498 ล้านปอนด์ ที่น่าเหลือเชื่อคือ บาร์เซโลน่า อยู่ไกลถึงอันดับ 14 ที่ 403 ล้านปอนด์ เป็นรองแม้กระทั่ง เวสต์แฮม (430 ล้านปอนด์) รวมถึง บาเยิร์น มิวนิค (432 ล้านปอนด์) และ ยูเวนตุส (438 ล้านปอนด์)
ด้านทีมแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ทีมล่าสุดอย่าง นาโปลี มีมูลค่า 397 ล้านปอนด์ อยู่อันดับที่ 16, อัล ฮิลาล ทีมดังของ ซาอุดิอาระเบีย 392 ล้านปอนด์ เข้ามาเป็นที่ 17 ตามด้วย ไลป์ซิก 378 ล้านปอนด์, แอสตัน วิลล่า 372 ล้านปอนด์ และ เบรนท์ฟอร์ด 364 ล้านปอนด์
แน่นอนว่าตัวเลขนี้ไม่ได้หมายความงว่า เชลซี จะประสบความสำเร็จในเวทียุโรปอย่างแน่นอนในฤดูกาลนี้ บ่อยครั้งที่มันขึ้นอยู่กับว่าใครใช้เงินฉลาดที่สุดมากกว่าจะตัดสินว่าใครใช้เงินมากที่สุด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นตัวอย่างชั้นดีของเรื่องนี้ ทีมชุดปัจจุบันของรูเบน อโมริม เป็นทีมเดียวกับที่ตกรอบ คาราบาว คัพ ให้กับ กริมสบี้ ทาวน์ ทั้งที่ทีมมีมูลค่าเกือบ 1 พันล้านปอนด์
ส่วนการเซ็นสัญญาที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ขอ งกริมสบี้ นั้นไม่ถึง 500,000 ปอนด์ด้วยซ้ำ!
ทีมฟุตบอลที่มีมูลค่าสูงที่สุด
1) เชลซี - 1.14 พันล้านปอนด์
2) แมนฯ ซิตี้ - 980 ล้านปอนด์
3) แมนฯ ยูไนเตฝ้ด - 933 ล้านปอนด์
4) ลิเวอร์พูล - 928 ล้านปอนด์
5) อาร์เซน่อล - 872 ล้านปอนด์
6) สเปอร์ส - 849 ล้านปอนด์
7) เปแอสเช - 760 ล้านปอนด์
8) เรอัล มาดริด - 744 ล้านปอนด์
9) นิวคาสเซิ่ล - 711 ล้านปอนด์
10) แอต.มาดริด - 498 ล้านปอนด์
11) ยูเวนตุส - 438 ล้านปอนด์
12) บาเยิร์น มิวนิค - 432 ล้านปอนด์
13) เวสต์แฮม - 430 ล้านปอนด์
14) บาร์เซโลน่า - 403 ล้านปอนด์
15) นาโปลี - 397 ล้านปอนด์
16) อัล-ฮิลาล - 392 ล้านปอนด์
18) ไลป์ซิก - 378 ล้านปอนด์
19) แอสตัน วิลล่า - 372 ล้านปอนด์
20) เบรนท์ฟอร์ด 364 ล้านปอนด์
