ส่งต่อรอยยิ้ม
ในภาพยนต์ที่อบอุ่นหัวใจที่นอกจาก ไกเซโด้ ก็มีเพื่อนร่วมทีมอีกหลายคนทั้ง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเลฮานโดร การ์นาโช่, ชูเอา เปโดร และ เอสเตเวา วิลเลี่ยน นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้แฟนบอบร่วมบริจาคของขวัญสำหรับการแข่งขันที่กำลังจะมาถึงด้วย
รายได้จากการขายสินค้าคริสมาสต์จะนำไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลและสโมสรทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรด้านการกุศลแคมเปญต่างๆ อย่าง Age UK และ Shepherd’s Star เพื่อหวังว่าจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนที่กำลังรู้สึกโดดเดี่ยวในช่วงคริสต์มาสนี้
ไกเซโด้ พูดถึงการมีส่วนร่วมนี้ว่า "ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมช่วยเหลือแคมเปญนี้ เพราะผมรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะอยู่กับครอบครัวในช่วงคริสต์มาส และบางคนก็อยู่คนเดียว สำหรับผม การได้ร่วมแคมเปญนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก และหวังว่าเราจะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้"
ปัญหาการต้องอยู่ห่างจากครอบครัวและเพื่อนฝูงในช่วงคริสต์มาส หรือช่วงเวลาอื่นๆ เป็นสิ่งที่ มอย รู้ดี เขามีความสนิทสนมกับครอบครัวอย่างมาก และยังคงซาบซึ้งในชุมชน ซานโต โดมิงโก้ ที่ช่วยเลี้ยงดูเขามา
ไกเซโด้ มีพี่-น้อง ถึง 9 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 7 คน และผู้หญิง 2 คน แต่เขาอาจไม่ได้อยู่กับพี่น้องครบเก้าคนเนื่องจากช่องว่างระหว่างวัย แต่เขาใช้เวลาในวัยเด็กส่วนใหญ่อยู่กับพี่ชาย 4 คน และได้พบปะกับสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ เป็นประจำ
เมื่อเข้าต้องเดินทางไกลกว่า 9,000 กิโลเมตร มาอยู่ อังกฤษ ด้วยวัยเพียง 19 ปี ตอนย้ายมา ไบรท์ตัน เมื่อปี 2021 จึงเป็นเรื่องยากเสมอ และการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้ มอย ต้องอยู่แต่ในห้องพักที่โรงแรมช่วง 10 วันแรก กองกลางรายนี้เล่าให้ฟังว่าเขาร้องไห้ทุกวันและอยากกลับไป เอกวาดอร์
"ตอนที่ผมย้ายมา อังกฤษ มันยากมากที่ต้องห่างจากครอบครัวเป็นครั้งแรกที่ผมต้องจากพวกเขาไปเป็นเวลานาน" ไกเซโด้ กล่าว
"ผมต้องอยู่คนเดียว มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผม เพราะผมไม่เคยห่างครอบครัวมาก่อน ผมต้องปรับตัวเพราะมันคือชีวิตใหม่ของผมในประเทศนี้"
"ผมสวมมนต์บ่อยมากเพราะผมรู้ว่าพระเจ้าจะได้ยิน ดงนั้นผมจึงอธิษฐานเยอะมาก เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับคนที่มาจาก อเมริกาใต้ สู่ อังกฤษ"
ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนของทีมฟุตบอลไม่ว่าจะเป็นห้องแต่งตัวหรือในออฟฟิศ บทบาทของเพื่อนร่วมทีมก็ไม่ควรมองข้ามเมื่อต้องเผชิญกับความเหงา
เมื่อต้องห่างไกลจากครอบครัวและเพื่อนฝูง การมีปฏิสัมพันธ์กันตลอดทั้งวันสามารถส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อสุขภาพจิตและความสุขของเพื่อนร่วมงานได้ และหลังจากที่เริ่มต้นชีวิตอย่างยากลำบาก มอย ก็โชคดีที่ได้เข้ามาสู่ห้องแต่งตัวของ ไบรท์ตัน
"เพื่อนร่วมทีมของผมที่ ไบรท์ตัน ดีกับผมมากๆ มีคนที่พูดภาษาสเปนได้ 3-4 คน ที่คอยช่วยผม ผมจำได้มี อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่ช่วยมากเป็นพิเศษ เพราะเขาช่วยผมมากเลยตอนที่ผมมาร่วมทีม"
"ผมขอบคุณเขามากๆ เพราะภาษาค่อนข้างยาก ยังมีเรื่องอื่นๆ เช่นความแตกต่างของเวลา ผมจึงต้องปรับตัวทั้งในและนอกสนาม มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีมากเช่นกันเพราะพวกเขาไม่เคยทิ้งผมให้โดดเดี่ยวเลย"
การปรับตัวเข้ากับชีวิตใน อังกฤษ ได้เร็วทำให้ มอย โดดเด่นในสนาม กลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลกและฝันการย้ายสู่ เชลซี เกิดขึ้นในช่วงซัมเมอร์ปี 2023
ไกเซโด้ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้กับฤดูกาลที่ 3 ในรั้ว สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งเขายกระดับฝีเท้าจนได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในโลก ด้วยวัย 24 ปี เขาเป็นหนึ่งในแข่งอาวุโสของทีมไปแล้ว แต่เขาไม่เคยลืมประสบการณ์ในช่วงแรก และให้ความสำคัญของการช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมที่อาจกำลังเผชิญกับความโดดเดี่ยว
"ผมพยายามช่วยเหลือนักเตะเมื่อย้ายมาร่วมทีม ผมทำแบบนั้นที่ ไบรท์ตัน และตอนนี้ก็ที่ เชลซี ซึ่งผมพยายามใกล้ชิดกับนักเตะที่มาจากที่อื่นอย่าง อเมริกา เพราะมันยาก"
"มันยากสำหรับเราด้วยภาษา ความต่างของเวลา อากาศ อาหาร ทุกๆ อย่าง ดังนั้นสำหรับผมมันพิเศษมากที่ได้ช่วยเหลือพวกเขาเหมือนอย่างที่ผมเคยได้รับ ผมพยายามช่วยพวกเขาเพื่อให้พวกเขารู้สึกเหมือนมีครอบครัวอยู่ที่นี่"
ด้วยความอ่อนน้อมและเอาใจใส่ต่อผู้คนของ มอย จะทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกครั้งเมื่อได้พูดคุยกับเขา แน่นอนว่าเขายังคงจดจำวิธีที่ชุมชน ซานโต โดมิงโก้ ช่วยเหลือเขาในวัยเด็ก พี่-น้องของเขาที่ช่วยหล่อหลอมให้เขาเป็นนักฟุตบอลอย่างทุกวันนี้ และเพื่อนร่วมทีม ไบรท์ตัน ที่ช่วยเหลือเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด
มอย รู้ดีถึงพลังของมิตรภาพและพลังของฟุตบอล เมื่อต้องช่วยเหลือผู้ที่กำลังทุกข์ทรมาน ไม่ว่าจะเป็นความเหงาหรืออะไรก็ตาม
"ฟุตบอลเป็นสิ่งที่พิเศษมากเพราะมันไม่ใช่แค่กีฬา แต่มันเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน เราไม่ได้คิดถึงแค่การเล่นฟุตบอลเท่านั้นแต่รวมถึงการนำผู้คนจากมูลนิธิเชลซีหรือผู้ป่วยเข้ามา เพื่อให้พวกเขาได้เพลิดเพลินกับการชมหรือพูดคุยกับเรา"
"สำหรับเราแล้วมันพิเศษมากเพราะเราไม่ได้คิดถึงแค่ฟุตบอลแต่คิดถึงการช่วยเหลือผู้คนและทำให้พวกเขายิ้มได้กว้างมากขึ้น หรือในระหว่างเกม บางทีเมื่อเราทำประตูได้ ผู้คนรู้สึกดีขึ้น และสำหรับเรามันไม่ใช่แค่การเป็นนักฟุตบอลเท่านั้น"

