"รีเกียน" ติวเข้ม "ดิ เบลลา" บู๊ "พระจันทร์ฉาย"

โจนาธาน ดิ เบลลา แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) เฉพาะกาล วัย 29 ปี ตัวแทนอิตาลี-แคนาดา ฝึกซ้อมร่วมกับ รีเกียน เออร์เซล เจ้าของเข็มขัด ONE มวยไทย รุ่นไลต์เวต (155-170 ป.) ก่อนเปิดศึกรีแมตช์ พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย แชมป์โลก ONE มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต เพื่อหาราชันเพียงหนึ่งเดียวของรุ่นนี้ โดยจะขึ้นป้ายคู่เอกของศึก ONE Fight Night 36 วันเสาร์ที่ 4 ต.ค.นี้
ดิ เบลลา เคยอกหักจากการประจันหน้ากับ พระจันทร์ฉาย ครั้งแรกในศึก ONE ลุมพินี 68 เมื่อเดือน มิ.ย. 67 พลาดคว้าแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต ที่ว่างอยู่ ณ ขณะนั้น โดยเป็นฝ่ายแพ้คะแนนเอกฉันท์ ส่งผลให้นักสู้ขวัญใจชาวไทย ผงาดเป็นแชมป์โลก ONE สองกติกา (มวยไทย และ คิกบ็อกซิ่ง) แห่งรุ่นสตรอว์เวตอย่างยิ่งใหญ่
หลังจากนั้น ดิ เบลลา ยังคงเดินหน้าภารกิจทวงคืนบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งที่เคยครอง และกู้ฟอร์มเก่งได้ทันควันด้วยการเอาชนะคะแนนเอกฉันท์ รุย โบเทลโฮ จากโปรตุเกส และล่าสุดเอาชนะ สามเอ ไก่ย่างห้าดาว ด้วยคะแนนเอกฉันท์ ในศึก ONE 172 พร้อมกับคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต เฉพาะกาล มาครอง เพิ่มสถิติบนสังเวียน ONE เป็น 4-1 และได้โอกาสเปิดศึกสางแค้นรวบเข็มขัดกับ พระจันทร์ฉาย สมใจ
ตอนนี้ ดิ เบลลา กำลังอยู่ในช่วงเก็บตัวสำหรับหนึ่งในไฟต์ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ซึ่งด้วยความมุ่งมั่นที่อยากกอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมา เจ้าตัวตัดสินใจบินตรงสู่กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อฝึกซ้อมร่วมกับ “รีเกียน” ซึ่งกลายเป็นประสบการณ์ที่เจ้าตัวยากลืม
“เขาส่งข้อความหาผมว่า ‘คุณจะไปที่นั่นเมื่อไหร่? ตอนนี้คุณอยู่นิวยอร์กหรือเปล่า?’ ผมจึงตอบกลับไปว่า ‘อยู่ครับ เราต้องมาเจอกันแล้วล่ะ’ และเขาก็ไปซ้อมที่ยิมของเพื่อนพ่อผม เรานัดซ้อมด้วยกันและมันสมบูรณ์แบบมาก”
“ผมตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมซ้อมกับ รีเกียน เพราะเขาคือหนึ่งในนักชกที่เก่งที่สุดแบบปอนด์ต่อปอนด์ ทั้งในกติกาคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย ผมรู้ว่าจะได้ฝึกซ้อมอย่างมีคุณภาพแน่ ๆ ทักษะของเขาอยู่ในระดับสูง ตอนที่เขายืนอยู่ตรงหน้า ผมสามารถสัมผัสได้เลยว่าเขาเก่งจริง ๆ”
“เราลงนวมด้วยกัน 4-5 ยก มันดีมากจริง ๆ แม้จะได้ฝึกซ้อมร่วมกับ รีเกียน เพียงแค่1-2 วัน ก็ช่วยผมได้เยอะมากในการเก็บตัวซ้อมครั้งนี้ครับ”
นอกจากการร่วมซ้อมครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการรับมือ พระจันทร์ฉาย แล้ว ทาง ดิ เบลลา เสริมว่าเขาและ รีเกียน ยังมีเจตจำนงตรงกัน คืออยากมีส่วนร่วมในการสนับสนุนนักสู้รุ่นใหม่ ซึ่งยิ่งส่งผลให้แชมป์โลก ONE ทั้งสองคนคุยกันถูกคอและมีความสนิทสนมกันมากขึ้นเหมือนพี่น้อง
“ตอนนี้ผมนับถือ รีเกียน มากขึ้น เพราะเห็นว่าเขาไม่ได้ให้ความช่วยเหลือผมคนเดียว แต่เขาอยากช่วยเหลือทุกคน ซึ่งเหมือนอย่างที่ผมทำ เราทั้งคู่มีแนวคิดแบบเดียวกัน”
“เราไม่ได้คอยช่วยเหลือแค่นักกีฬาระดับสูง แต่ยังอยากสนับสนุนดาวรุ่งและนักกีฬาอาชีพคนอื่น ๆ เราพร้อมให้คำแนะนำทุกอย่าง และทำให้พวกเขาเก่งขึ้นไปด้วยกัน”
“ผมรู้สึกว่า รีเกียน คือตัวผมในเวอร์ชันที่ใหญ่กว่า เขาพูดกับผมเสมอว่า ‘น้องชาย ไว้มานิวยอร์กเมื่อไหร่ เรามาซ้อมด้วยกันอีกนะ’ และผมก็ตอบกลับไปว่า ‘แน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ โทรหรือส่งข้อความหาผมได้เลย เราจะมาซ้อมด้วยกัน’”
ในศึกรีแมตช์ครั้งสำคัญนี้ น่าสนใจว่า ดิ เบลลา ที่ได้เรียนรู้วิชาจากแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งหลายสมัยอย่าง รีเกียนจะนำเอาเคล็ดลับใดมาถอนแค้น พระจันทร์ฉาย และเขาจะสามารถคืนสู่บัลลังก์ที่เคยครองได้หรือไม่? แฟนกีฬาต่อสู้ทั่วโลกห้ามพลาด!