เจาะกติกา "ไหว้ครู" มวยไทย สู้เพื่อ 2 เหรียญทองซีเกมส์
มวยไทยประเภทไหว้ครูในซีเกมส์ครั้งที่ 33 เตรียมชิงชัย 2 เหรียญทอง ภายใต้กฎกติกาการให้คะแนนจาก 5 องค์ประกอบหลัก รวม 100 คะแนน ตัดสินความสมบูรณ์แบบและความสวยงามในการร่ายรำ
มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ไทยแลนด์ 2025 ได้บรรจุกีฬามวยไทยเข้าแข่งขันอีกครั้ง โดยแบ่งเป็นประเภทต่อสู้และประเภทไหว้ครู ซึ่งจะจัดขึ้นที่สนามมวยลุมพินี รามอินทรา ระหว่างวันที่ 13-17 ธันวาคมนี้
สำหรับมวยไทยประเภทต่อสู้ การตัดสินผลการแข่งขันอาจเป็นที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับแฟนกีฬา แต่ในประเภทไหว้ครู มีรายละเอียดที่น่าสนใจและเป็นศิลปะที่ต้องใช้ความชำนาญสูง
ตามกติกาของสภามวยไทยโลก หรือ IFMA นักกีฬาต้องแสดงบนเวทีขนาดมาตรฐาน ด้วยเครื่องแต่งกายมวยไทยโบราณหรือร่วมสมัยสีใดก็ได้ ยกเว้นสีดำ พร้อมสวมมงคล ประเจียดรัดต้นแขน และผ้าคาดเอว รวมถึงกางเกงมวยที่ได้รับการรับรอง
การแข่งขันประเภทไหว้ครู นักกีฬามีเวลา 3 นาทีต่อรอบ เกณฑ์การให้คะแนนจะวัดจากความสมบูรณ์แบบของ 5 องค์ประกอบหลัก รวม 100 คะแนน แบ่งเป็นส่วนละ 20 คะแนน ได้แก่ ท่าเริ่มต้น, ท่าพรหมนั่ง, ท่าพรหมยืน, ท่าเชื่อม และท่าจบ
กรรมการจะพิจารณาความถูกต้องของท่า, ความสมบูรณ์ของท่า, การเข้าจังหวะกับดนตรีปี่พาทย์, ความไหลลื่น, ความสวยงาม ตลอดจนความเรียบร้อยของเครื่องแต่งกายหลังแสดงเสร็จสิ้น ที่สำคัญนักกีฬาต้องร่ายรำให้ครบทั้ง 4 ทิศ ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งหรือท่ายืน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพรอบทิศของเวที
ทั้งหมดนี้คือความรู้เบื้องต้นในการชมการแข่งขันไหว้ครู ที่จะมีการชิงชัย 2 เหรียญทอง ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ แฟนมวยสามารถไปให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทยได้ที่ สนามมวยลุมพินี รามอินทรา
