มาเรสก้าส่อคุมสิงห์ปีหน้าแม้อาจวืดชปล.

    ผู้บริหารของสโมสร นำโดย พอล วินสแตนลี่ย์ และลอว์เรนซ์ สจ๊วร์ต ผู้อำนวยการร่วมด้านกีฬา วางแผนที่จะสงวนการตัดสินใจเกี่ยวกับกุนซืออิตาลีวัย 45 ปีรายนี้ไว้จนถึงซัมเมอร์ 2026

    ทั้งนี้ แม้มีความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่องว่า เชลซีจะจบฤดูกาลในท็อป 5 หรือไม่ หลังพ่ายต่อนิวคาสเซิ่ล 0-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

    เมื่อฤดูกาลพรีเมียร์ลีกเหลืออีก 2 นัด ทีมของมาเรสก้ารั้งอันดับที่ 5 เหนือกว่า แอสตัน วิลล่าเพียงผลต่างประตูเท่านั้น โดยมีเกมเหย้ากับแมนฯ ยูไนเต็ด และเกมเยือนน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ที่อยู่อันดับที่ 7

    ทีมอันดับ 5 พรีเมียร์ลีกจะผ่านเข้าไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า หลังได้โควต้าเพิ่มขึ้นจากผลงานอันยอดเยี่ยมของทีมในเกมยุโรป

    นอกจากนี้ เชลซียังเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของ ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก โดยจะพบกับ เรอัล เบติส ที่เมืองวรอตซวาฟ ประเทศโปแลนด์ ในวันที่ 28 พฤษภาคม

    หากมาเรสก้าและทีมของเขาทำผลงานได้ไม่ดีในพรีเมียร์ลีก อาการบาดเจ็บตลอดช่วงฤดูหนาวจะถือเป็นปัจจัยสำคัญ

    ข้อมูลพื้นฐานแสดงให้เห็นว่า พวกเขาพลาดโอกาส (มากเป็นอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีก) และสร้างจังหวะที่คาดว่าจะเป็นประตู (มากเป็นอันดับ 5 ในลีก) ซึ่งนั่นส่งผลต่อการตัดสินใจของสโมสรตามไปด้วย ทั้งสองตัวชี้วัดแสดงให้เห็นว่า ทีมสร้างโอกาสทำประตูได้มากมาย แม้ไม่เป็นประตูทุกครั้งก็ตาม

    ดังนั้น คาดว่าเชลซีจะให้โอกาสกุนซือชาวอิตาเลียนต่อไป เว้นแต่จะเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝันหรือพ่ายแพ้อย่างยับเยิน

    ผู้บริหารระดับสูงต่างชื่นชมการทำงานหนักของมาเรสก้า, การพัฒนาทางยุทธวิธี และการปรับตัวให้เข้ากับโครงสร้างสโมสรที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งมีแผนกเซ็ตพีชใหม่ โครงสร้างทางการแพทย์และทีมรับสมัครที่ปรับปรุงใหม่ทั้งหมด

    สโมสรแต่งตั้งมาเรสก้าด้วยสัญญา 5 ปี โดยมองว่าเป็นคนเหมาะสมในการทำหน้าที่ระยะยาว ก่อนหน้านี้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เซ็นสัญญา 2 ปีและออกจากตำแหน่งหลังคุมทีมได้เพียงฤดูกาลเดียว

    จนถึงขณะนี้ มาเรสก้ามีบทบาทกับวิสัยทัศน์ยุคใหม่ของเชลซี และคาดว่าการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมในอนาคตจะส่งผลให้มีโค้ชประเภทเดียวกันเข้ามาแทนที่

    สโมสรเคยแสดงความเสียใจเกี่ยวกับการปลด เกรแฮม พ็อตเตอร์ ออกก่อนสิ้นสุดฤดูกาล 2022-23 แม้พวกเขาจะยังคงยืนกรานว่าทั้ง โธมัส ทูเคิ่ล และโปเช็ตติโน่ต่างก็ไม่ใช่คนที่เหมาะกับเชลซี