แอนจ์ยันตนไม่ใช่ตัวตลกก่อนไก่ชิงดำผี

พอสเตโคกลู ออกมาปกป้องสถิติการคุมทีมของตัวเอง โดยอ้างถึงรายงานของ สแตนดาร์ด ซึ่งระบุว่าเขา "กำลังสับสนระหว่างฮีโร่และตัวตลก" ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันในบิลเบา แม้ว่าทีมของเขาจะมีผลงานในลีกที่ย่ำแย่ก็ตาม

ในนัดชิงชนะเลิศคืนวันพุธ สเปอร์ส หวังจะยุติการรอคอยถ้วยรางวัลนาน 17 ปี หรืออาจต้องจบฤดูกาลแบบมือเปล่าอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลงานแย่ที่สุดของพวกเขาตั้งแต่สโมสรกลับมาสู่ลีกสูงสุดเมื่อปี 1978

พอสเตโคกลู กล่าวโดยเปลี่ยนจากความไม่พอใจที่เดือดพล่านเป็นเสียงสั่นเครือด้วยอารมณ์ขณะที่เล่าถึงเรื่องราวส่วนตัวของเขาและครอบครัวของเขา

เขานำบทสนทนากลับไปที่บทความเมื่อนักข่าวที่เขียนบทความชี้ให้เห็นว่าฤดูกาลนี้อาจกลายเป็นซีซั่นที่ดีที่สุดหรือแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสโมสร และกุนซือชาวออสเตรเลียก็กำลังหลงทาง "ระหว่างความอัปยศสองประเภทที่แตกต่างกันอย่างมาก"

"ไม่ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ผมไม่ใช่ตัวตลกและจะไม่มีวันเป็น" พอสเตโคกลู กล่าว

"คุณทำให้ผมผิดหวังมากที่คุณใช้ศัพท์ดังกล่าวเพื่ออธิบายถึงบุคคลที่ทำงานมา 26 ปี โดยไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบจากใครเลย จนสามารถก้าวขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งที่นำสโมสรในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยุโรปได้"

"คุณบอกว่าการที่เราไม่ประสบความสำเร็จหมายความว่าผมเป็นตัวตลก ผมไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนั้นอย่างไร"

พอสเตโคกลู เกิดที่เอเธนส์ แต่ย้ายมาออสเตรเลียกับครอบครัวเมื่ออายุ 5 ขวบ

หลังจากได้ลงเล่นให้ทีมชาติไป 4 นัด เขาก็เริ่มต้นอาชีพโค้ชอันโดดเด่นที่รวมถึงช่วงเวลาต่างๆ กับ บริสเบน รอร์ และ เมลเบิร์น วิคตอรี่ ก่อนจะรับหน้าที่คุมทีมชาติออสเตรเลีย

เขาย้ายไปญี่ปุ่นกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส จากนั้นก็ย้ายไป เซลติก ในปี 2021 และ สเปอร์ส ในปี 2023

เห็นได้ชัดว่า พอสเตโคกลู รู้สึกไม่ว่า สเปอร์ส จะชนะหรือไม่ในวันพุธ เขาก็เป็นเรื่องราวแห่งความสำเร็จเมื่อพิจารณาจากจุดเริ่มต้นของเขา

"พ่อแม่ของผมทิ้งทุกอย่างที่พวกเขารู้เพราะลูกๆ ของพวกเขา เพราะผม ผมรักสิ่งนั้นมาก" เขากล่าวเสริม

"ผมเกิดที่กรีซ พ่อของผมทำให้ผมรู้ว่าการเป็นชาวกรีซหมายความว่าอย่างไร จากนั้นผมก็เติบโตที่ออสเตรเลีย ซึ่งฟุตบอลไม่ใช่กีฬาที่โดดเด่น"

"ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ในออสเตรเลีย เมื่อมันเป็นกีฬา คุณจะเจอใครก็ได้ ไม่ว่าเขาจะตัวใหญ่หรือแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม"