อาโมริมเสียงแข็งยันไม่เปลี่ยนระบบ

    รูเบน อาโมริม ถูกบังคับให้ต้องปกป้องระบบการเล่นอีกครั้ง หลังปฏิเสธปรับแผนการเล่นที่ตนเองถนัด กระทั่งปีศาจแดงพ่ายยับต่อเรือใบสีฟ้า 0-3 ในศึกผ่าเมือง ทำให้ทีมของอาโมริมออกสตาร์ตพรีเมียร์ลีกย่ำแย่ที่สุดในรอบ 33 ปี

    รูเบน อาโมริม กล่าวว่า ตนเองยอมรับ "การตัดสินใจใดๆ" หลังจากแมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้อย่างยับเยินครั้งล่าสุด คราวนี้ในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ขณะที่สถิติของเขากับสโมสรกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักอีกครั้ง

    4 แต้มจากจำนวนนัดที่เท่ากันของยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ หมายความว่า ผีแดงออกสตาร์ตพรีเมียร์ลีกได้ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 33 ปี ขณะที่อาโมริมกลายเป็นผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ดที่มีเปอร์เซ็นต์ชนะต่ำสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

    ยิ่งไปกว่านั้น และแสดงให้เห็นสถานการณ์ได้อย่างชัดเจนที่สุด นับตั้งแต่ อาโมริมได้รับการแต่งตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แมนฯ ยูไนเต็ดเก็บแต้มได้น้อยที่สุดตลอดกาล โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1 แต้มต่อนัด และผลต่างประตูได้เสีย -13

    "ผลงานไม่ดีเลย" อาโมริมให้สัมภาษณ์หลังจบเกม "ในช่วงเวลาสำคัญ พวกเขาทำได้ดีกว่าเรา"

    "ผมพยายามใช้เหตุผล ผมเห็นสถิติแล้ว ผมเข้าใจความผิดหวังและผมเข้าใจการตัดสินใจที่ตามมา ผมยอมรับคำวิจารณ์ แค่นั้นแหละ"

    เมื่อถูกถามว่าเขาอยากจะฝากอะไรถึงแฟนๆ ที่โกรธแค้น ซึ่งหลายคนออกจากสนามก่อนเสียงนกหวีดสุดท้ายที่เอติฮัด อาโมริมตอบว่า "ผมอยากจะฝากอะไร? ผมจะทำทุกอย่าง คิดเสมอว่า อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสโมสร"

    "ตราบที่ยังอยู่ที่นี่ ผมจะทำให้ดีที่สุด ที่เหลือไม่ใช่การตัดสินใจของผม ผมเจ็บปวดมากกว่าแฟนบอลเสียอีก"

    แม้โดนวิจารณ์เกี่ยวกับการยึดมั่นระบบ 3-4-2-1 กระนั้น อาโมริมยังคงยืนหยัดกับระบบที่ตนเองถนัดนี้เข่นเดิม

    "มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ผมยอมรับมัน เมื่อผมต้องการเปลี่ยนปรัชญาของตัวเอง ผมก็จะเปลี่ยน ถ้าไม่ คุณต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่น"

    "และเราพูดถึงเรื่องนี้ทุกเกมที่เราแพ้ ผมไม่เชื่อในระบบหรืออะไรก็ตาม ดังนั้น ผมจึงเล่นในแบบของผม และผมจะเล่นในแบบของผมจนกว่าผมจะอยากเปลี่ยนแปลงมัน"

    "ผมเข้าใจฟุตบอล และผลการแข่งขันเป็นตัวกำหนดเรื่องราว ผมมองแบบนั้น ผมรู้ว่า มันเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆ คน แฟนๆ ไม่อยากได้ยินเรื่องแบบนี้ ผมไม่ได้โกหกตัวเอง ผมเห็นสถิติแล้ว และผมยอมรับทุกการตัดสินใจ"