อาโมริมรับไม่รู้จะได้อะไรจากผีในแต่ละวีก

ทีมของ อาโมริม จะเดินทางไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด เพื่อคว้าชัยชนะ 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาคุมทีมเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2024

ยูไนเต็ด คว้าชัยเกมเหย้า 2 นัดติดต่อกันเป็นครั้งแรกภายใต้การคุมทีมของ อาโมริม โดยเอาชนะ เชลซี ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต่อจากชัยชนะเหนือ เบิร์นลี่ย์ จากประตูชัยในช่วงท้ายเกมก่อนเบรกทีมชาติ

อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้อย่างยับเยินต่อ แมนฯ ซิตี้ เป็นสิ่งที่ต้องเผชิญระหว่างสองเกมที่ผ่านมา ขณะที่ทีมของ อาโมริม ยังคงรักษาความคงเส้นคงวาเอาไว้ได้ ครั้งสุดท้ายที่ ยูไนเต็ด เอาชนะ 2 นัดติดต่อกันในซีซั่นเดียวคือเดือนพฤษภาคม ปี 2024

เมื่อถูกถามถึงความรู้สึกไม่ไว้วางใจในหมู่แฟนบอลที่ทีมจะชนะ 2 นัดติดต่อกัน อาโมริม ยอมรับว่าเขามีมุมมองคล้ายกันกับกองเชียร์

"มันเป็นเรื่องปกติสำหรับแฟนๆ พวกเขา (แฟนบอล) ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในเกมต่อไป" อาโมริม กล่าว

"พูดตามตรง ผมเองก็มีความคิดนะ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง และผมเป็นผู้จัดการทีมด้วย มันเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่เรามีชีวิตอยู่มาหลายเดือน วิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับเรื่องนี้คือให้ทุกเกมเป็นเกมสุดท้าย ไม่ใช่แค่คิดเกี่ยวกับสองเกม ใช่ มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"

"เกมต่อไปจะเป็นเกมที่สำคัญที่สุดสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"

"ผมเข้าใจความรู้สึกแฟนๆ เรามาเริ่มเปลี่ยนความรู้สึกนั้น และแสดงตัวเราด้วยความมุ่งมั่นที่เราต้องทำในสนาม"

อาโมริม เชื่อว่าทีมของเขาเล่นได้ดีในฤดุกาลนี้ แต่ผลการแข่งขันกลับไม่สะท้อนถึงผลงานที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม การสร้างผลงานที่ดีจากการเริ่มต้นที่ดีอาจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างโมเมนตัมของพวกเขา

"ผมไม่ได้บอกว่าต้องเล่นให้ดี เพราะผมคิดว่าเราทำได้ในปีนี้" อาโมริม กล่าว

"มันสำคัญมาก (ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะชนะสองเกมติด) ผมคิดแบบนั้น และเราได้พูดถึงเรื่องนี้ในตอนจบเกม มันสำคัญมากสำหรับเราที่จะต้องมีความรู้สึกเร่งด่วนว่าเราจำเป็นต้องชนะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และมันจะเป็นเรื่องยากมาก"

"ทุกครั้งที่เราเริ่มเตรียมตัวสำหรับเกม และคุณดูคู่แข่งถัดไป คุณคิดว่ามันจะยากจริงๆ ผมรู้สึกแบบนั้น"

"แต่สำหรับผม เราไม่สามารถควบคุมผลการแข่งขันได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเริ่มเกมแบบที่เราเริ่มต้นกับ เชลซี แบบที่เราเริ่มต้นกับ เบิร์นลี่ย์ แบบที่เราเริ่มต้นกับ อาร์เซน่อล"