ห้ามแฟนบอลมัคคาบี้เข้าชมยูโรปานัดเยือนวิลล่า

ตำรวจเวสต์มิดแลนด์ แสดงความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพในการควบคุมสถานการณ์ หากเกิดการประท้วงหรือความวุ่นวายขึ้นในระหว่างเกมที่ทีมจากอิสราเอลลงสนาม

คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความปลอดภัย (Safety Advisory Group) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ออกใบรับรองความปลอดภัยให้กับการแข่งขัน ได้แจ้งกับสโมส รแอสตัน วิลล่าว่า ห้ามแฟนบอลทีมเยือนเดินทางเข้าชมเกมที่เบอร์มิงแฮม

สโมสรแอสตัน วิลล่า ออกแถลงการณ์ว่า "สโมสรยังคงหารือกับ มัคคาบี้ เทลอาวีฟ และหน่วยงานท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยความปลอดภัยของแฟนบอลและชาวเมืองถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจครั้งนี้"

ด้าน ตำรวจเวสต์มิดแลนด์ ระบุว่า เกมดังกล่าวถูกจัดอยู่ในประเภท "ความเสี่ยงสูง (high risk)" จากการประเมินอย่างละเอียด

โฆษกของตำรวจเผยว่า "การตัดสินใจนี้อ้างอิงจากข่าวกรองในปัจจุบัน และเหตุการณ์ความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นในเกมยูโรปาลีก 2024 ระหว่าง อาแจ็กซ์ กับ มัคคาบี้ เทลอาวีฟ ที่อัมสเตอร์ดัม ซึ่งรวมถึงความรุนแรงและอาชญากรรมจากความเกลียดชัง"

"จากวิจารณญาณของเรา การห้ามแฟนบอลทีมเยือนครั้งนี้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของสาธารณชน"

แม้ว่าการออกใบรับรองความปลอดภัยจะอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของสภาเมืองเบอร์มิงแฮม แต่ ตำรวจก็สนับสนุนการตัดสินใจห้ามแฟนบอลทีมเยือนเข้าชมครั้งนี้

ด้าน สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ยืนยันว่า "ยูฟ่าอยากให้แฟนบอลทุกคนสามารถเดินทางและเชียร์ทีมรักได้ในบรรยากาศที่ปลอดภัยและเป็นมิตร"

"แต่ท้ายที่สุดแล้ว การตัดสินใจเกี่ยวกับความปลอดภัยเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในแต่ละประเทศ"

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นก่อนเกมระหว่าง อาแจ็กซ์ กับ มัคคาบี้ เทลอาวีฟ ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ซึ่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมองว่าเป็น "การผสมผสานอย่างเป็นพิษของการต่อต้านชาวยิว (antisemitism), การฮูลิแกน และความโกรธแค้นต่อสงครามในฉนวนกาซาและตะวันออกกลาง"

ทั้งนี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีการประท้วงเกี่ยวกับสงครามในกาซาเกิดขึ้นในการแข่งขันกีฬาหลายรายการ รวมถึงเกมที่ทีมชาติอิสราเอลพบกับนอร์เวย์และอิตาลี ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2023 ยังเคยมีความวุ่นวายก่อนเกมที่ แอสตัน วิลล่า พบกับ เลเกีย วอร์ซอ จนมีผู้ถูกจับกุมถึง 39 ราย