เจฟฟ์ชีประธานบริหารวูล์ฟส์ลาออกหลังถูกสับ

    ชายวัย 48 ปี ลาออกหลังทำงานในถิ่นโมลินิวซ์มาเกือบ 10 ปี โดยที่สโมสรยังไม่ชนะใครเลยและอยู่อันดับสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก มีเพียง 2 คะแนน

    เขาจะยังคงดำรงตำแหน่งประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ โฟซุน สปอร์ตส์ กรุ๊ป แต่จะไม่มีหน้าที่ในการดำเนินงานใดๆ กับวูล์ฟส์อีกต่อไป

    เขาจะถูกแทนที่ชั่วคราวโดย นาธาน ชี (ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ เจฟฟ์ ชี) ซึ่งทำงานให้กับเจ้าของสโมสรอย่างฟอสุนมาตั้งแต่ปี 2016

    เจฟฟ์ ชี กล่าวว่า "ผมรับตำแหน่งนี้ด้วยความนอบน้อม วันนี้ ผมก้าวลงจากตำแหน่งด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความกตัญญู เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับทีมผู้บริหาร นักเตะ โค้ช เจ้าหน้าที่ และเหนือสิ่งอื่นใดคือแฟนๆ ของเรา"

    "เราได้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงสโมสรให้กลายเป็นพลังระดับโลกที่ต่อสู้ในระดับสูงสุด"

    "ผมขอขอบคุณฟอสุนและคณะกรรมการที่ไว้วางใจ และขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกคนที่ทำให้โมลินิวซ์เปล่งประกาย ตำแหน่งของผมอาจเปลี่ยนไป แต่หัวใจของผมยังคงคำรามเพื่อสโมสรแห่งนี้ในทุกๆ เกม"

    "ผมขอให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่ทีมบริหารชุดใหม่และขออวยพรให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการนำพาวูล์ฟส์ไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม"

    ทางด้าน นาธาน ชี กล่าวว่า "ในช่วงเวลาสำคัญและท้าทายนี้ ผมหวังว่าจะได้ทำงานอย่างใกล้ชีดกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เพื่อสร้างอนาคตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และช่วยให้วูล์ฟส์ก้าวไปสู่ความสำเร็จใหม่ๆ ผมเชื่อว่าด้วยความสามัคคี เราจะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ด้วยความเชื่อมั่น ความภาคภูมิใจ ความทะเยอทะยาน และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน"

    ชี ประธานกรรมการบริหารที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่ง ตกเป็นเป้าโจมตีของแฟนบอลวูล์ฟส์ที่ไม่พอใจ โดยนักวิจารณ์มองว่า เขากำลังทำให้สโมสรตกต่ำลงภายใต้การบริหารของฟอสุน

    เขาตกเป็นเป้าของความโกรธแค้นจากแฟนบอลมานานหลายเดือน และความไม่พอใจที่สะสมมานานก็ปะทุขึ้น เมื่อวูล์ฟส์ตามหลังอันดับ 17 อยู่ 14 แต้ม และกำลังเผชีญหน้ากับการตกชั้นไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพ

    วูล์ฟส์จะเปิดบ้านรับเบรนท์ฟอร์ดในวันเสาร์ และจะพยายามหลีกเลี่ยงการทำสถิติไร้ชัยชนะในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลที่แย่ที่สุดของพรีเมียร์ลีก

    หากพวกเขาไม่สามารถเอาชนะเบรนท์ฟอร์ดที่โมลินิวซ์ได้ พวกเขาจะทำสถิติไร้ชัยชนะยาวนานที่สุดในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลพรีเมียร์ลีกที่ 17 นัด ซึ่งทำไว้โดยเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2020-21

    ภายใต้การทำงานของ เจฟฟ์ ชี ที่กำลังจะจากไป วูล์ฟแฮมป์ตันคว้าแชมป์เลื่อนชั้นจากแชมเปี้ยนชิพในปี 2018 โดยมี นูโน่ เอสปิริโต ซานโต เป็นผู้คุมทีม ก่อนจบอันดับ 7 ในลีกสูงสุด 2 ฤดูกาลติดต่อกัน

    พวกเขายังเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของยูโรปา ลีก ในปี 2020 และรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ ในปี 2019

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจฟฟ์ ชี กล่าวว่า เขาเข้าใจความผิดหวังของแฟนบอล ที่มีแฟนบอลหลายพันคนบอยคอตในช่วง 15 นาทีแรกของการแข่งขันที่แพ้แมนฯ ยูไนเต็ด 1-4 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม

    "มันเป็นความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากของแฟนบอล" เขากล่าว "เมื่อ 5-6 ปีก่อน เราอยู่ในจุดสูงสุด รอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ และรอบก่อนรองชนะเลิศในยุโรป"

    "เมื่อคุณไปถึงจุดสูงสุดเหล่านั้น แฟนบอลก็ไม่อยากปล่อยมันไป ผมเองก็รู้สึกเช่นนั้น เมื่อคุณสูญเสียอะไรแบบนั้น มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก ผมจึงเห็นใจ"

    "ผมไม่ใช่แค่แฟนบอล ผมเป็นซีอีโอและประธานสโมสร ผมต้องคิดถึงวิธีประเมินผลงานในทศวรรษที่ผ่านมาอย่างเป็นกลาง และวางแผนสำหรับอีก 10 ปีข้างหน้า"

    เจฟฟ์ ชี ให้สัมภาษณ์กับ บีบีซี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ร่วมกับ แม็ตต์ แจ็คสัน ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค และทั้งคู่ชี้ว่า วูล์ฟส์ทำผิดพลาดในการซื้อขายนักเตะช่วงซัมเมอร์

    "บางที เราอาจขายผู้เล่นมากเกินไปในตลาดซื้อขายเดียว" เจฟฟ์ ชี กล่าว "คุณสามารถดูทีมและเปรียบเทียบกับฤดูกาลที่แล้วได้ บางทีเราอาจเปลี่ยนผู้เล่นหลักไป 40 หรือ 50%"

    "การสร้างทีมใหม่เป็นงานยาก แต่พรีเมียร์ลีกนั้นยากมาก ถ้าคุณควบคุมจังหวะไม่ได้และต้องการเวลามากขึ้นในการสร้างทีมใหม่ เกมการแข่งขันจะลงโทษคุณ"