หงส์ยิ้ม!โจนส์เผยซาล่าห์ขอโทษเพื่อนร่วมทีมแล้ว
เคอร์ติส โจนส์ เปิดเผยว่า โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้ขอโทษเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูลหลังจากให้สัมภาษณ์อย่างดุเดือด นักเตะวัย 33 ปี ซึ่งไปเล่นให้ทีมชาติอียิปต์ในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ได้แสดงความคิดเห็นที่รุนแรงหลายอย่าง หลังไม่ได้ลงสนามในเกมที่เสมอกับลีดส์ ยูไนเต็ด 3-3
โจนส์ให้สัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ตส์ เกี่ยวกับซาล่าห์ว่า "โมเป็นคนที่มีความคิดเป็นของตัวเอง และเขาสามารถพูดอะไรก็ได้ตามใจชอบ เขาขอโทษพวกเราและบอกว่า - ถ้าผมทำให้ใครรู้สึกไม่ดีหรือรู้สึกแย่ ผมขอโทษ - นั่นคือตัวตนของเขา"
"ผมพูดได้แค่จากที่ผมรู้จักโม และรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรกับพวกเรา และเขาแสดงออกอย่างไร เขามีทัศนคติที่ดีด้วย เขาเป็นโมคนเดิมเป๊ะๆ เขามีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า และทุกคนก็ปฏิบัติต่อเขาเหมือนเดิมทุกอย่าง ผมคิดว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของความต้องการที่จะเป็นผู้ชนะ และผมคิดว่าเขาคงไม่ใช่คนสุดท้าย"
"ผมเข้าใจว่ามีวิธีการต่างๆ ที่คุณสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ แต่ถ้าเด็กคนหนึ่งพอใจที่จะนั่งสำรองและเขาไม่ต้องการลงเล่นและช่วยทีม ผมคิดว่านั่นเป็นปัญหามากกว่า"
"เมื่อใดก็ตามที่มีความโกรธเกิดขึ้นจากพวกเรา รวมถึงตัวผมเองด้วย มันมักมาจากเจตนาที่ดี ในขณะนั้นมันอาจจะไม่ได้แสดงออกมาในทางที่ถูกต้อง แต่มันไม่เคยมีเจตนาที่จะส่งผลกระทบต่อทีม สตาฟฟ์ ผู้จัดการ หรือใครก็ตาม ตอนนี้เราผ่านช่วงนั้นมาแล้ว และเรากำลังเข้ากันได้ดีในฐานะทีม เล่นได้ดี และเริ่มที่จะชนะเกมต่างๆ แล้ว"
หนึ่งในชัยชนะเหล่านั้นเกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเหนือไบรท์ตัน และนั่นก็ทำให้ซาล่าห์กลับมาลงสนามอีกครั้งพร้อมกับทำแอสซิสต์ได้ด้วย โจนส์ก็สร้างความประทับใจในเกมนั้นเช่นกัน หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่ซาน ซิโร่กับเอซี มิลาน
แม้ไม่ได้ระเบิดอารมณ์เหมือนซาล่าห์ แต่โจนส์ก็ให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาหลังจพ่าย 1-4 ในแชมเปี้ยนส์ ลีกต่อ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน มิดฟิลด์ชาวอังกฤษยังได้ให้คำตอบที่ชัดเจนเมื่อถูกถามเกี่ยวกับความคิดเห็นเหล่านั้นด้วย
"ผมเป็นคนลิเวอร์พูล ผมรู้ว่ามันมีความหมายมากแค่ไหนสำหรับเมือง แฟนๆ สโมสร และทีมงานที่นี่ นี่อาจเป็นครั้งแรกที่ผมอยู่ในสถานการณ์แบบนี้"
"มีหลายเหตุผลที่ผมออกมาพูด ผมแค่พูดตามตรง ผมจะพูดในสิ่งที่ผมคิด และบางครั้งมันอาจทำให้คนอื่นไม่พอใจ"
"ใครก็ตามที่รู้จักผม จะรู้ว่าผมเกลียดการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นเกมไพ่ เกมฝึกซ้อม มันไม่สำคัญ ตอนนี้ เพราะผมอยู่ในทีมชุดใหญ่และผมเป็นคนลิเวอร์พูล ผมเชียร์ทีมมาตั้งแต่เด็ก ผมเล่นในฐานะนักเตะ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นแฟนบอลด้วย"
"ผมรู้ว่ามันส่งผลกระทบต่อแฟนๆ มากแค่ไหน มันส่งผลกระทบต่อผมแบบเดียวกัน ผมมีความรู้สึกว่าเราแพ้ไม่ได้"
"ผมโกรธ แต่ในขณะเดียวกันก็ตกใจด้วย มันเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นว่าเพื่อนร่วมทีมทุกคนทำแบบนั้น พวกเขาไม่โทษโม ไม่โทษผู้จัดการทีม ไม่โทษกันเอง หรืออะไรทำนองนั้น พวกเขารับผิดชอบร่วมกัน"
"ผมกำลังพูดถึงเรื่องที่พวกเขาทั้งหมดต้องวิ่งมากขึ้น สู้มากขึ้น และแข่งขันมากขึ้น ผมไม่ได้หมายถึงแค่พวกเขา แต่หมายถึงตัวผมเองด้วย นั่นคือสิ่งที่คุณเริ่มเห็นในตอนนี้ และนั่นคือเหตุผลที่ผมรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงไป"
"เมื่อผมได้คุยกับเพื่อนร่วมทีมในทีมต่างๆ และเห็นว่าทีมของเราแตกต่างจากทีมของพวกเขาอย่างไร ที่นี่เราเหมือนครอบครัวมากกว่า และครอบครัวก็อาจทะเลาะกันบ้าง แต่พวกเขาก็ยังคงสามัคคีกันเสมอ เหตุการณ์เล็กๆ นั้นแสดงให้เห็นว่าครอบครัวสำคัญที่สุด"
"ผมพูดแบบนั้นโดยไม่ได้คำนึงถึงแฟนๆ และเรื่องของโม ว่ามันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเราในทางใดทางหนึ่ง มันอาจส่งผลต่อความคิดของเราที่ต้องการชัยชนะ แต่ไม่มีใครโทษใคร และผมคิดว่านั่นคือสิ่งสำคัญ"
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา
