ความเคลื่อนไหวการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท (AFC CHAMPIONS LEAGUE ELITE 2025/26) ลีกสเตจ เกมที่ 3 “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อันดับ 7 ที่มี 3 คะแนน มีคิวออกไปเยือน เมลเบิร์น ซิตี้ ทีมแกร่งจากเอลีก ลีกสูงสุดของประเทศออสเตรเลีย ทีมอันดับสุดท้าย ที่ยังไม่มีคะแนน จากการลงสนาม 2 นัดเท่ากัน โดยจะฟาดแข้งกันในวันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2568 ณ สนามเมลเบิร์น เรคแทงกูลาร์ สเตเดียม คิกออฟเวลา 14.45 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งช้ากว่าเวลาท้องถิ่น 4 ชั่วโมง ถ่ายทอดสดผ่านทาง YouTube : BG Sports
ล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2568 ณ ห้องแถลงข่าวสนามเมลเบิร์น เรคแทงกูลาร์ สเตเดียม ได้มีการแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขันโดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มี มาร์ค แจ็คสัน หัวหน้าผู้ฝึกสอนป้ายแดง ของกองทัพปราสาทสายฟ้า ที่เคยคุมทีมดังในดินแดนจิงโจ้ อย่าง สโมสรเซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส พร้อมด้วย เคอร์ติส กู๊ด ปราการหลัง ดีกรีอดีตทีมชาติออสเตรเลีย ที่เติบโตมาจากทีม เมลเบิร์น ซิตี้ เข้าร่วมแถลงข่าว
โดย มาร์ค แจ็คสัน เปิดเผยถึงเกมในวันพรุ่งนี้ว่า “มันรู้สึกค่อนข้างแปลกแต่ก็ตื่นเต้นมากสำหรับผม ได้มาทำงานกับสโมสรใหม่ และเป็นเกียรติที่ได้เป็นตัวแทนของทีมใหญ่ในประเทศไทย ทีมให้การต้อนรับผมดีมาก ทั้งสตาฟ และนักเตะ ทุกคนให้ความร่วมมือ และเข้าใจแนวทางที่เราต้องการจะเล่น ผมรู้สึกว่าเราพร้อมสำหรับเกมนี้แล้ว เราต้องการชัยชนะเพื่อกลับมามีลุ้นเข้ารอบ ความคาดหวังมีอยู่เสมอทั้งจากสโมสร และจากของผมเอง แต่ผมมองว่าความกดดันคือสิ่งที่ดี มันทำให้เรามุ่งมั่นมากขึ้น เราได้ซ้อม และปรับระบบให้เข้าที่มากขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าลูกทีมของผมพร้อมสำหรับเกมในวันพรุ่งนี้”
ผู้สื่อข่าวถามถึงคู่แข่งอย่าง เมลเบิร์น ซิตี้ ที่กุนซือป้ายแดงปราสาทสายฟ้า รู้จักเป็นอย่างดี ถึงข้อได้เปรียบ มาร์ค แจ็คสัน เผยว่า “ผมรู้จักพวกเขาดีกว่าทีมอื่น ๆ เพราะเคยอยู่ที่นี่มา 2 ปี ผมกับ เคอร์ติส กู๊ด ก็พูดคุยกันบ่อยเกี่ยวกับแนวทางของพวกเขา แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องโฟกัสที่ทีมของเราเอง เราศึกษาพวกเขาไว้บ้างแล้ว แต่เราจะเน้นการเล่นในสไตล์ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และพยายามแสดงแนวทางของเราในสนามให้ทุกคนได้เน ไม่ว่าจะเป็นเกมเหย้า หรือเกมเยือน”
การมารับงานต่อจาก ออสมาร์ ลอสส์ ที่พาทีมคว้า 4 แชมป์ มีความกดดันมากแค่ไหน กุนซือชาวอังกฤษ เผยว่า “สโมสรใหญ่ย่อมมีความกดดันอยู่แล้ว แต่ผมมองว่าความกดดันเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้เราต้องโฟกัส และพัฒนาตลอดเวลา ผมเข้าใจสิ่งนี้ดี และพร้อมรับมือกับมัน การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติของฟุตบอล สิ่งสำคัญคือเราต้องปรับตัวให้เร็ว และทำให้ทีมกลับมาชนะอีกครั้ง ผมเคารพในสิ่งที่ทีมเคยทำได้ และจะค่อย ๆ ใส่แนวทางการทำทีมของผมอย่างค่อยเป็นค่อยไปกับนักเตะ”
นอกจากนี้สื่อยังถามย้อนไปถึงการคุมทีมเก่าอย่าง สโมสรเซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส และการต้องลาจากทีม กุนซือปราสาทสายฟ้า ร่ายยาวว่า “ผมมีช่วงเวลาที่ดีมากที่นั่น และจะจดจำไว้เสมอ แต่ผมรู้สึกว่ามันถึงเวลาที่เหมาะสมที่เราจะเกินไปต่อสู่ความท้าทายใหม่ ที่ ๆ มีสิ่งที่ดึงดูดผมมากกว่า ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง ผมอยากเดินไปข้างหน้า และโฟกัสกับสิ่งที่เรากำลังสร้างที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฟุตบอลคือการเรียนรู้ไม่มีหยุด ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่น หรือโค้ช ทุกครั้งที่ผ่านการแข่งขันคุณจะได้อะไรใหม่เสมอ ผมได้เรียนรู้มากมายจากช่วงเวลาที่คุมทีมเซ็นทรัล โคสต์ มาริเนอร์ส โดยเฉพาะใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท เมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ผมรู้ชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่าสไตล์การทำทีมของผมคืออะไร และการได้ทำงานกับนักเตะที่มีคุณภาพสูงแบบบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือโอกาสที่ดีมาก ๆ ในการนำสิ่งเหล่านั้นมาปรับใช้”
สำหรับผลการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท (AFC CHAMPIONS LEAGUE ELITE 2025/26) ลีกสเตจ 2 เกมที่ผ่านมา ของทั้ง 2 ทีม “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบุรีรัมย์ สเตเดียม เอาชนะ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ไปได้ 2-1 และบุกไปพ่าย เอฟซี โซล 0-3 มี 3 คะแนน ส่วน เมลเบิร์น ซิตี้ เปิดบ้านแพ้ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา 0-2 และบุกไปพ่าย วิสเซล โกเบ 0-1 ยังไม่มีคะแนน