"ชาโด้" ยอมรับคำตัดสินพร้อมรีแมตช์ "โมฮาเหม็ด"

ชาโด้ สิงห์มาวิน เผยความในใจหมดเปลือกหลังการปะทะกับ โมฮาเหม็ด ยูเนส ราบาห์ จบลงแบบ ไม่มีผลการแข่งขัน ในศึก ONE Fight Night 33 เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา
หลังจากคว้าสัญญา ONE มาครองได้เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา งานแรกของ ชาโด้ ในฐานะนักกีฬา ONE ถูกประกบให้พบกับ โมฮาเหม็ด นักสู้จากแอลจีเรีย และถือเป็นก้าวแรกของเขาที่ได้ขึ้นชกในรายการระดับโลก
เกมการชกเต็มไปด้วยความดุเดือด ชาโด้ ปล่อยหมัดเด็ดเรียกนับได้ช่วงปลายยกแรก ก่อนจะเดินหน้าออกอาวุธต่อเนื่องในยกสอง กระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อ ชาโด้ พลาดนิ้วจิ้มเข้าตาของ โมฮาเหม็ด ในขณะออกอาวุธ
หลังทีมแพทย์เข้าตรวจอาการ ปรากฏว่า โมฮาเหม็ด ไม่สามารถแข่งขันต่อได้ โดยตามกติกาของ ONE หากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุสุดวิสัยระหว่างการแข่งขัน และยังแข่งไม่จบยกที่ 2 (ในกรณีชก 3 ยก) กรรมการจะไม่สามารถรวมคะแนนตัดสินได้ ทำให้ไฟต์นี้ถูกตัดสินว่า “ไม่มีผลการแข่งขัน (No Contest)”
การตัดสินดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา หลังจบเกม ชาโด้ ออกมาเปิดใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “ยกแรกเขาพยายามเดินเข้าทำ ไล่เตะขาผม ผมก็สวนคืนและแลกกันไปมา จนมีจังหวะที่ผมปล่อยหมัดเข้าคางจนเขาล้มลงไป และโดนนับ 8 ตอนนั้นผมมั่นใจว่าเกมกำลังเข้าทาง และวางแผนจะปิดเกมเด็ดขาดให้ได้ในยกต่อไป”
“ช่วงต้นยกสอง ผมไล่หวดแข้งเข้าเป้าได้หลายครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขาเริ่มมีอาการ ผมเลยพยายามเกี่ยวแขนเพื่อต่อย แต่พลาด จึงฟันศอกซ้ายเข้าไป หลังจากนั้นเขาบอกว่าโดนนิ้วจิ้มตา แต่ในมุมมองผมคิดว่าไม่โดน นิ้วแต่น่าจะเป็นศอกมากกว่าที่โดน”
แม้จะไม่เป็นไปตามที่หวัง แต่ ชาโด้ พร้อมเก็บบทเรียนจากไฟต์นี้ไปปรับปรุงแก้ไขและมุ่งมั่นจะกลับมาแจ้งเกิดให้ได้ในโอกาสหน้า โดยกล่าวต่อว่า
“ตอนเสียงระฆังดัง ผมคิดว่าชนะน็อกไปแล้ว แต่พอกรรมการตัดสินว่า ไม่มีผลการแข่งขัน ผมก็รู้สึกเสียใจ แต่ยอมรับทุกคำตัดสิน และพร้อมเสมอถ้าจะมีโอกาสรีแมตช์กับเขาอีกครั้ง ขอให้คู่ต่อสู้หายไว ๆ ไม่ว่าจะโดนหรือไม่โดนผมไม่ได้มีเจตนาครับ”
“ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้โอกาสเปิดตัวครั้งแรกบนเวทีใหญ่ ผมคาดหวังว่าจะได้ชัยชนะเพื่อพาตัวเองไปให้ไกลกว่านี้ แม้ทุกอย่างจะไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ แต่ผมได้รับบทเรียนสำคัญและประสบการณ์ที่มีค่ามาก เพื่อนำไปพัฒนาตัวเองในไฟต์ต่อไป”
“ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาหาผม ครั้งหน้าจะกลับมาทำให้ดีกว่าเดิม และคว้าชัยชนะมาฝากคนไทยให้ได้ครับ”