"เต็งหนึ่ง" เล็งงัดเก๋าดับห้าว "มักซิม"

ล่าสุด เต็งหนึ่ง กู้คืนฟอร์มเก่งพลิกเกมจากการถูกนับ กลับมาปิดเกมน็อก แชร์แมง โปโกมู นักชกตัวแทนกินี-ฝรั่งเศส อย่างสวยงาม ในศึก ONE ลุมพินี 108 เมื่อ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ลบลืมฝันร้ายจากไฟต์เปิดตัวที่เขาพ่ายน็อกยกแรก ดีมิทรี เมนชิคอฟ จากรัสเซีย ในศึก ONE ลุมพินี 97 เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งต่อมา ดีมิทรี ถูกตรวจพบสารกระตุ้น ส่งผลให้ ONE เปลี่ยนคำตัดสินไฟต์ดังกล่าวเป็น ไม่มีผลการแข่งขัน

เจ้าตัวเปิดใจว่า “ผลงานสองไฟต์ที่ผ่านมา ผมให้คะแนนตัวเองราว 7–8 เต็ม 10 เพราะยังต้องพัฒนาอีก โดยเฉพาะสภาพร่างกายที่ยังไม่แข็งแกร่งเต็มที่ การเอาชนะ แชร์แมง ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะถ้าแพ้อีกก็คงมีกระแสวิจารณ์จากแฟนมวยตามมา”

ด้วยผลงานน่าประทับใจ กลับมารอบนี้ เต็งหนึ่ง จึงได้รับโกาสให้ขึ้นชกเป็นคู่เอกครั้งแรกในรายการ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันพร้อมสู้สุดฝีมือเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ชัดเจนอีกครั้ง แม้หลายฝ่ายมองว่าเขาเป็นรองทาง มักซิม อยู่ก็ตาม

ด้าน มักซิม เปิดตัวอย่างยอดเยี่ยมในศึก ONE ลุมพินี 111 เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาเพียง 77 วินาที ปิดเกมน็อก ฮาเวียร์ อาปาริซิโอ จากอาร์เจนตินาอย่างเด็ดขาด พร้อมกับยืดสถิติไร้พ่ายเป็น 10 ไฟต์ ตลอดเส้นทางอาชีพ

กลับมารอบนี้ เต็งหนึ่ง ยอมรับว่าเสียเปรียบคู่ชกอย่าง มักซิม ทั้งในด้านรูปร่าง รวมถึงอายุที่มากกว่าถึง 10 ปี แต่เจ้าตัวยังเชื่อมั่นว่ากระดูกมวยและความหนักแรงของอาวุธของตัวเองจะเป็นทีเด็ดที่ช่วยให้ฝ่าด่านนี้เก็บชัยต่อเนื่องได้ “ผมไม่รู้สึกกดดันที่จะเจอกับ มักซิม แม้เขาจะเป็นมวยฟอร์มแรง แต่ผมพร้อมทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จริง ๆ หมัดของเขาไม่หนักเท่า ดีมิทรี เพียงแต่ได้เปรียบเรื่องความไว ส่วนเรื่องอายุอาจมีผลบ้าง แต่สุดท้ายก็ต้องไปวัดกันบนเวที ซึ่งผมเตรียมใช้ลูกเก๋าสู้กับความสดเต็มที่”

“ผมมั่นใจว่าอาวุธผมก็หนักไม่แพ้กัน ขอเพียงให้ได้จังหวะโดนจัง ๆ สัก 1–2 ครั้ง ก็อาจตัดสินเกมได้เลย โดยเฉพาะหมัดและศอกที่น่าจะเป็นอาวุธเด็ดจัดการเขาได้”

“ผมคิดว่าไฟต์นี้ต้องมีคนร่วงแน่ เพราะเราต่างเป็นมวยรุ่นใหญ่ที่อาวุธหนักทั้งคู่ ถ้าใครพลาดโดนก่อนก็มีโอกาสจบเกมได้ทันที ผมอยากลุ้นคว้าโบนัสให้ได้อีกครั้ง เพื่อเก็บเงินเอาไว้ใช้ในอนาคตครับ”

นอกเหนือจากการไล่ล่าชัยชนะเพื่อไปต่อในเส้นทางของ ONE แล้ว เต็งหนึ่ง ยังตั้งใจพิสูจน์ให้แฟนมวยที่ยังคลางแคลงใจได้เห็นว่า เขามีศักยภาพมากพอที่จะยืนหยัดในเวทีนี้ และก้าวสู่เป้าหมายต่อไปคือการเป็นนักกีฬาระดับโลก หลายคนมองว่า มักซิม เก่งกว่า แชร์แมง ซึ่งผมเคยเจอมาแล้วเสียอีก ถ้าผมเอาชนะ มักซิม ได้ กระแสวิจารณ์น่าจะเบาลง และจะเป็นการลบคำสบประมาทพร้อมกับพิสูจน์ให้เห็นว่า ผมพร้อมเดินหน้าต่อบนเส้นทางนี้แน่นอนครับ”