มวยไทยกับมรดกทางภูมิปัญญาไทย

วันจันทร์ที่ 08 กันยายน 2568
35
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
รู้ก่อนใคร ลึกกว่าใคร ข่าวบอลไทย ต้องที่ THSPORT

ของขวัญทางวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น: มวยไทย กับ ความท้าทายและโอกาสในการอนุรักษ์ ‘มรดกภูมิปัญญา’ สู่สากล

มวยไทยไม่ได้เป็นเพียงกีฬาหรือศิลปะการต่อสู้เพื่อชัยชนะ แต่คือระบบความรู้ที่สั่งสมและหลอมรวมเป็นวิถีปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่สมบูรณ์ เชื่อมโยงทุกอย่างตั้งแต่พิธีกรรมความเชื่อ ดนตรี เครื่องแต่งกาย จิตวิญญาณของความสัมพันธ์ระหว่างครูกับศิษย์ ไปจนถึงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ลักษณะเหล่านี้ทำให้มวยไทยได้รับการยอมรับในฐานะ “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” (Intangible Cultural Heritage: ICH) ที่มีชีวิตของสังคมไทย

ปัจจุบัน ประเทศไทยโดยกระทรวงวัฒนธรรมและกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้เดินหน้าผลักดันให้ “มวยไทย” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นส่วนหนึ่งของ “บัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ” โดย UNESCO ตั้งแต่ปี 2567 ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบาย Soft Power ของประเทศ ล่าสุด ข้อมูลจากฐานข้อมูลของ UNESCO ระบุว่า “Muay Thai Thai traditional boxing” อยู่ในสถานะ “ระหว่างดำเนินการ” (under process) สำหรับการพิจารณาในบัญชีดังกล่าว แม้ว่าภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2568 ยังไม่มีมติอย่างเป็นทางการ แต่กระบวนการทั้งหมดยังคงดำเนินต่อไปภายใต้กรอบงาน ICH ของ UNESCO

ความพิเศษของมวยไทยในมิติวัฒนธรรมอยู่ที่ “พิธีไหว้ครู-รำมวย” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญก่อนการขึ้นชก พิธีกรรมนี้ไม่เพียงแสดงถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างครูและศิษย์ แต่ยังเป็นการสร้างสมาธิและภาวะพร้อมทางจิตใจให้กับนักมวย นักมานุษยวิทยาและนักวิชาการด้านวัฒนธรรมมองว่าพิธีกรรมนี้ทำหน้าที่เป็น “ภาษาวัฒนธรรม” ที่ช่วยให้ผู้ชมจากต่างวัฒนธรรมเข้าใจรากเหง้าและอัตลักษณ์อันดีของมวยไทยได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากคุณค่าทางวัฒนธรรมแล้ว มวยไทยยังส่งผลเชิงบวกต่อสุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม จากการศึกษาการฝึก “ไหว้ครูมวยไทย” เป็นเวลา 10 สัปดาห์ ในกลุ่มตัวอย่างหลายช่วงวัย พบว่าผู้เข้าร่วมมีพัฒนาการด้านสมรรถภาพทางกาย ทั้งระบบไหลเวียนโลหิต ความยืดหยุ่น และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รวมถึงมีสุขภาวะทางสังคมและจิตใจที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม นี่เป็นการพิสูจน์ว่ามรดกภูมิปัญญาสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน และควรถูกบูรณาการเข้ากับนโยบายด้านสาธารณสุข กีฬาเพื่อมวลชน และการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ในด้านเศรษฐกิจ การศึกษาด้านการท่องเที่ยวกีฬาชี้ให้เห็นว่าประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ผู้ชมต่างชาติได้รับจากการชมมวยไทยที่สนามมวยราชดำเนินและลุมพินี เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มีความตั้งใจที่จะกลับมาเที่ยวหรือชมมวยซ้ำอีกครั้ง ดังนั้น การออกแบบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ผสมผสานองค์ประกอบทางวัฒนธรรมอย่างพิธีกรรม ดนตรี และชุมชน จึงมีศักยภาพสูงในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย

ตัวอย่างที่ชัดเจนคืองาน “World Wai Kru Muay Thai Ceremony” ที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งในปี 2568 ตั้งเป้าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 5,300 คน และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 158 ล้านบาท เหตุการณ์เช่นนี้แสดงให้เห็นว่าการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมไม่ได้ขัดกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่สามารถเสริมซึ่งกันและกันได้ under มาตรการที่คำนึงถึงศักดิ์ศรีและสิทธิของชุมชนผู้เป็นเจ้าของวัฒนธรรม

ในเวทีระหว่างประเทศ สมาพันธ์มวยไทยสมัครเล่นโลก (IFMA) ได้รับการรับรองอย่างเต็มรูปแบบจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ในปี 2564 และมีข้อตกลงความร่วมมือกับ UNESCO ด้านการศึกษาและสันติภาพผ่านกีฬา ความก้าวหน้านี้ช่วยส่งเสริมและปกป้องคุณค่าของมวยไทยในมาตรฐานสากล พร้อมทั้งสร้างเกราะป้องกันไม่ให้มรดกวัฒนธรรมนี้ถูกทำให้ “ไร้บริบท” ในตลาดโลก

บทเรียนสำคัญจากกรอบการคุ้มครองมรดกของ UNESCO ชี้ว่า การอนุรักษ์ที่ยั่งยืนต้องเริ่มจาก “สิทธิและเสียง” ของชุมชนผู้ปฏิบัติ และต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของมรดกที่ยังมีชีวิต ดังนั้น แนวทางสำหรับมวยไทยควรเน้น 4 มิติที่เชื่อมโยงกัน ได้แก่

-การถ่ายทอดความรู้ผ่านหลักสูตรทั้งในและนอกระบบการศึกษา

-การปกป้องบรรทัดฐานทางพิธีกรรมโดยให้อำนาจตัดสินใจแก่ครูมวยและชุมชน

-การสื่อสารสาธารณะที่อธิบายความหมาย ที่ลึกซึ้งของมวยไทย

-การจัดการห่วงโซ่มูลค่าที่เป็นธรรม เพื่อปกป้องสิทธิ์และศักดิ์ศรีของนักมวยและชุมชน

มวยไทยในฐานะมรดกภูมิปัญญาของชาติ คือจุดพบกันของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ความภาคภูมิใจของชุมชน และโอกาสทางเศรษฐกิจการรวมพลังของทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นสถาบันกีฬา สถาบันการศึกษา สมาคมมวย หน่วยงานรัฐ และเอกชน จึงมีความสำคัญเพื่อเป้าหมายร่วมเดียวกัน นั่นคือการ “คุ้มครองเพื่อให้ยังมีชีวิต” ไม่ใช่การเปลี่ยนมันให้เป็นเพียงสินค้าหรือของแสดง โอกาสในการขึ้นทะเบียนกับ UNESCO คือจุดเริ่มต้นที่ดียิ่งในการจัดระเบียบความรู้และมาตรการปกป้องมวยไทยอย่างเป็นระบบ เชื่อมโยงการศึกษา สุขภาพ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และศักดิ์ศรีของชุมชนเข้าด้วยกัน เพื่อให้มวยไทยยังคงเป็นวัฒนธรรมที่งอกงามและ有ชีวิตสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและรุ่นต่อไปอย่างแท้จริง


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด