"เต็งหนึ่ง" มั่นใจลดเวตคืนฟอร์มเก่งพร้อมวัด "ทุน มิน ออง"

“เต็งหนึ่ง” นักสู้เจ้าของแชมป์มวยรอบ Thai Fight คาดเชือก ยังคงมุ่งมั่นพิสูจน์ฝีมือในรายการ ONE ลุมพินี อย่างเต็มที่ หลังผ่านศึกมาแล้ว 3 ไฟต์ ชนะ 1 แพ้ 1 และอีก 1 ไฟต์ไม่มีผลการแข่งขัน ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 121 เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา เจ้าตัวพ่ายน็อกยก 2 ให้กับ “มักซิม บักห์ทิน” จากรัสเซีย กลับมารอบนี้ “เต็งหนึ่ง” จึงขอขยับรุ่นลงมาชกที่พิกัด 165 ป. เพื่อลดความเสียเปรียบด้านรูปร่างของคู่ชกและเก็บแต้มชัยเพิ่มให้ได้

“ภาพรวมตลอดทั้ง 3 ไฟต์ใน ONE ลุมพินี ถือว่าน่าพอใจ เพียงแค่แต่ละไฟต์ผมต้องเจอกับคู่ชกตัวใหญ่ ๆ ทั้งนั้น ทำให้รับมือได้ยาก โดยส่วนตัวยังรู้สึกว่าช้าอยู่ ไม่ค่อยคล่องแคล่วเหมือนที่เคยชกในรายการก่อนหน้านี้ แต่ถ้าได้ชกเคลื่อนไหวและขยับร่างกายต่อเนื่อง น่าจะเข้าที่มากกว่านี้ครับ”

“จากเดิมตอนชกรุ่นใหญ่ ผมรู้สึกว่าน้ำหนักมากเกินไปแล้วไม่คล่องตัว ทำให้เสียเปรียบคู่ต่อสู้ทั้งเรื่องรูปร่าง ความสูง และแรงปะทะ ผมจึงตัดสินใจค่อย ๆ ลดเวตลงมา ถ้าชกน้ำหนักน้อยกว่าเดิม อาจได้เจอกับคู่ชกที่ตัวเล็กลงมาบ้าง”

“การลดน้ำหนักลงมาชกในพิกัดที่น้อยลง ทำให้ตัวเพรียวขึ้นซึ่งช่วยให้มีความไวเพิ่มขึ้น แต่อาวุธยังหนักเหมือนเดิม การเตรียมตัวทำน้ำหนักรอบนี้ก็ไม่ได้ยาก ในช่วงซ้อม น้ำหนักค่อย ๆ ลดลงมาเรื่อย ๆ พอถึงเวลาชกก็พร้อมเต็มที่ ไม่มีปัญหาแน่นอนครับ” 

กลับมาครั้งที่ 4 “เต็งหนึ่ง” ได้รับโอกาสให้ขึ้นชกเป็นคู่เอกของรายการต่อเนื่อง โดยต้องดวลอาวุธกับ “ทุน มิน ออง” คู่ชกไฟแรงที่อายุน้อยกว่าถึง 14 ปี แต่เจ้าตัวเชื่อมั่นว่าการลดเวตลงมาสู้ในครั้งนี้จะส่งผลดีต่อฟอร์มการชก โดยพร้อมเปิดหน้าแลกกับอีกฝ่ายได้สนุกแน่นอน

ด้าน “ทุน มิน ออง” กำลังกลับมาอยู่ในช่วงมั่นใจอีกครั้ง ล่าสุดโชว์ผลงานเยี่ยมที่พิกัดน้ำหนัก 160 ป. เอาชนะทีเคโอ “ฉัตรเพชร รร.กีฬาลำปาง” ได้ในยก 2 พร้อมคว้าโบนัส 350,000 บาท ติดมือเป็นครั้งแรก ในศึก ONE ลุมพินี 110 เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา

งานนี้ “เต็งหนึ่ง” ประกาศชัดพร้อมเดินหน้าบู๊ตามสไตล์ถนัด เพื่อหยุดความร้อนแรงของ “ทุน มิน ออง” โดยหวังให้ชัยชนะครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับการขยับเวตลงไปสู้ในรุ่นเฟเธอร์เวตและหาจุดลงตัวในการโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุด

“ผมเจอกับ ทุน มิน ออง ที่สูงกว่าเล็กน้อย ส่วนเรื่องอายุไม่มีปัญหา เพราะผมเตรียมตัวฟิตเต็มร้อย จุดที่น่ากลัวที่สุดของเขาคือหมัดและยังถนัดซ้ายเหมือนผม จึงต้องระวังเป็นพิเศษ ส่วนพละกำลังและอาวุธคงต้องไปวัดกันบนเวที ผมมั่นใจว่าหมัดของเราสองคนหนักไม่ต่างกัน ใครพลาดก่อนก็มีสิทธิ์ร่วงก่อนได้ครับ””

“ผมศึกษาการชกของ ทุน มิน ออง มาบ้าง เห็นว่าเขาเคยพลาดโดนเตะก้านคอจนแพ้น็อกไป ถ้าไฟต์นี้เขายังไม่ระวัง ผมอาจเล่นงานซ้ำตรงจุดเดิมได้อีกครั้ง ผมยังคงมีหมัดและลูกเตะอันตรายเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือความไว หลังจากลดน้ำหนักลงมาชกในพิกัดนี้ ทำให้ไม่เสียเปรียบคู่ต่อสู้มากนัก”

“สไตล์การชกของผมยังเหมือนเดิม คือพร้อมเปิดหน้าแลกไม่กลัวเจ็บ และลุยได้ทุกรูปแบบ ผมเชื่อว่าไฟต์นี้จะมันยิ่งกว่าตอนอยู่รุ่นไลต์เวต เพราะแรงปะทะใกล้เคียงกัน น่าจะออกมาดุเดือดเร้าใจแน่นอนครับ”

นอกจากนี้ “เต็งหนึ่ง” ยังมุ่งเก็บชัยชนะครั้งนี้ เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดย้อนหลังให้ตัวเอง (6 ต.ค.) โดยแสดงความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะกลับมาเป็นผู้ชนะได้ พร้อมเผยถึงเป้าหมายในช่วงโค้งสุดท้ายของอาชีพของตนด้วย

“ถ้าไฟต์นี้สามารถเก็บชัยชนะได้สำเร็จ ผมตั้งใจจะทยอยลดน้ำหนักลงไปอีก เพื่อเป้าหมายในการชกในรุ่น 155 ป. ให้ได้ เริ่มจากไฟต์นี้ แฟนมวยรอชมได้เลยครับ ผมจะกลับมาโชว์ฟอร์มโหดให้เห็นแน่นอน

“ผมยังอยากชกมวยต่อไปเพื่อเก็บเงินสร้างอนาคต แต่ถ้าวันหนึ่งร่างกายไม่ไหวจริง ๆ ก็คงหันไปทำธุรกิจส่วนตัว ถึงตอนนี้จะได้สัญญา ONE หรือไม่ ผมไม่ได้กังวล แค่มีโปรแกรมชกต่อเนื่อง ได้โบนัสบ้าง และเก็บเงินไว้ให้ครอบครัวสักก้อนก่อนแขวนนวม ผมก็พอใจแล้วครับ”