"แสตมป์" โชว์ฟิต พร้อมบู๊ "คานะ" ศึก ONE 173

"แสตมป์ แฟร์เท็กซ์" อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) 3 กติกา (มวยไทย, คิกบ็อกซิ่ง และ MMA) ประกาศพร้อมเต็มที่ สำหรับการคืนสังเวียนในรอบกว่า 2 ปี โดยต้องบุกไปดวลฝีมือกับ "คานะ โมริโมโตะ" นักสู้คนดังชาวญี่ปุ่น ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต ในศึกใหญ่ ONE 173: ซุปเปอร์บอน vs มาซาอากิ ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. 68 ณ สนาม อาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เริ่มเวลา 11.00 น.
ไฟต์ล่าสุดของ “แสตมป์” เกิดขึ้นในศึก ONE Fight Night 14 เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 66 วันนั้นเธอสู้ในกติกา MMA เอาชนะทีเคโอ ยก 3 เหนือ “ฮาม ซอ ฮี” จากเกาหลีใต้ ก่อนประสบปัญหามีอาการเจ็บรองกระดูกเข่าซ้ายฉีกขาดจากการฝึกซ้อม ทำให้เธอชวดขึ้นป้องกันบัลลังก์ถึง 2 ครั้ง และตัดสินใจสละเข็มขัด ONE MMA รุ่นอะตอมเวต ในเวลาต่อมา
ล่าสุด “แสตมป์” ได้เปิดค่ายมวยแฟร์เท็กซ์ ในเมืองพัทยา ที่เธอใช้เป็นสถานที่ปักหลักฝึกซ้อมอยู่ในปัจจุบัน ต้อนรับทีมงานสื่อมวลชนเพื่อร่วมกิจกรรมเช็กฟิต (Open Workout) โชว์สภาพเนื้อตัวล่าสุด พร้อมให้ทั้งสัมภาษณ์ถึงความพร้อมก่อนกลับมาโชว์ผลงานอีกครั้งในวันที่ 16 พ.ย.นี้
“ทีมแพทย์บอกว่าสภาพร่างกายหนูสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ตอนนี้เหลือแค่ดูว่าถ้าได้สู้จริงแล้วร่างกายจะทนไหวไหม การร้างสังเวียนไปนานกว่า 2 ปี ถือว่ามีผลไม่น้อย รวมถึงอายุที่ตอนนี้ 28 ปี แล้ว ก็ส่งผลต่อการแข่งขันเหมือนกัน”
“สำหรับไฟต์นี้ หนูเก็บตัวซ้อมราว 3 เดือน ต้องรื้อระบบใหม่ทั้งหมดเพื่อเรียกแรงกลับมา โดยมีทีมวิทยาศาสตร์การกีฬาช่วยวางแผน ทำให้ซ้อมสมดุลมากขึ้น ไม่เน้นหนักอย่างเดียวค่ะ”
กลับมารอบนี้ “แสตมป์” ต้องพิสูจน์ฝีมือกับ “คานะ” เจ้าของแชมป์ K-1 ทัวร์นาเมนต์ แชมเปียนชิพ รุ่นฟลายเวตหญิง โดยเธอแสดงความมั่นใจว่าเตรียมสภาพร่างกายมาพร้อมเต็มที่ และหวังบุกไปเก็บชัยชนะให้ได้
“คานะ เป็นนักสู้ที่เก่ง มีความรวดเร็ว และอาวุธหนักแน่น เขาเป็นมวยหมัดหนูจึงเตรียมแข้งไปสกัด โดยเน้นเป้าที่แขนหรือน่อง เพื่อตัดจังหวะเขาให้ได้ และยังเสริมการป้องกันลูกเตะน่องของเขาด้วย”
“ไฟต์ล่าสุดที่ คานะ พบกับ เพชรจีจ้า หนูมองเห็นว่าเขาอดทนได้เก่งมาก แม้ต้องรับมือกับอาวุธหนัก ๆ ของอีกฝ่าย รวมถึงเรื่องของสปีดความเร็วก็ไม่มีตกด้วยค่ะ”
“หนูไม่เคยไปชกที่ญี่ปุ่นมาก่อนเลย นี่เป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เคยไปเที่ยวเท่านั้น ล่าสุดเพิ่งได้มีโอกาสไปร่วมงานแถลงข่าวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา สิ่งที่น่ากังวลคือสภาพอากาศหนาวและอาหารการกินที่อาจส่งผลต่อการลดน้ำหนัก แต่หนูคุมน้ำหนักต่อเนื่องมาตลอดและยังทำได้ดี ไม่มีปัญหาค่ะ”
“หนูมีความมั่นใจในตัวเองทุกไฟต์อยู่แล้ว แต่ตอนขึ้นสู้บนเวทีจริง ผลงานจะออกมาเป็นแบบไหน ต้องรอดูกันอีกที แต่หนูเชื่อมั่นว่าจะกลับมาได้ ฝากถึง คานะ ขอให้ซ้อมมาเต็มที่ เพราะหนูก็ซ้อมมาเต็มที่เหมือนกัน ถ้าเขาเตรียมตัวมา 100 เปอร์เซ็นต์ หนูจะไปสู้แบบ 200 เปอร์เซ็นต์ค่ะ”
นอกจากนั้น “แสตมป์” ยังหวังให้การเจอกับ “คานะ” เป็นบททดสอบสำคัญว่าร่างกายของเธอพร้อมมากแค่ไหน สำหรับการออกตามล่าความสำเร็จอีกครั้ง พร้อมเปรยว่าไฟต์ถัดไปอยากหวนไปโชว์ฝีมือในกติกามวยไทยและมีคู่ชกที่อยากเจอไว้ในใจแล้วด้วย
“หากผ่านไฟต์นี้ไปได้ด้วยดี หนูอยากกลับมาชกมวยไทย โดยมี เวโร เป็นคู่ชกในใจที่อยากเจอ เขามีความแข็งแรง และทรงมวยเหมือนผู้ชาย ถ้าหนูได้เจอกับเขาคงสู้กันสนุกแน่นอนค่ะ”