"ทุน มิน ออง" ไม่หวั่นความเก๋า "เต็งหนึ่ง"

ก่อนเข้าสู่รายการ ONE ลุมพินี “ทุน มิน ออง” ผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชนในบ้านเกิด กวาดชัยมา 43 ไฟต์ เสมอ 7 และไม่เคยแพ้ใคร แม้สถิติไร้พ่ายต้องมาหยุดลงในรายการนี้ แต่สไตล์การชกที่บู๊ดุดันก็ส่งให้เขาเป็นหนึ่งในนักชกที่น่าจับตา โดยชัยชนะที่ได้มาทั้งหมด 2 ไฟต์บนเวทีนี้เป็นการปิดเกมคู่ต่อสู้แบบไม่ครบยกและทำให้เขารับโบนัสกลับบ้านไปทั้ง 2 ครั้งด้วย

โดยเฉพาะในไฟต์ล่าสุด เขาเปิดเกมเดือดลุยใส่ “ฉัตรเพชร รร.กีฬาลำปาง” จนถูกนับถึง 3 ครั้ง ก่อนปิดเกมทีเคโอในช่วงปลายยกสอง ในศึก ONE ลุมพินี 110 ปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเขานำเงินรางวัลไปสร้างชีวิตที่มั่นคงให้ครอบครัวในบ้านเกิดสมความปรารถนา

โบนัสก้อนที่สองจาก ONE ผมนำไปซื้อที่ดินในบ้านเกิด และให้ครอบครัวไว้ใช้จ่าย ทั้งพ่อ แม่ และพี่ชายครับ”

“ไฟต์ที่ผ่านมา ผมน็อก ฉัตรเพชร ด้วยหมัดฮุกซ้าย แต่ยังต้องพัฒนาการเตะขาและการใช้ศอกให้ดียิ่งขึ้น จึงฝึกซ้อมหนักตรงจุดนี้มาเป็นพิเศษครับ”

ในไฟต์นี้ “ทุน มิน ออง” จะได้ขึ้นป้ายคู่เอกเป็นครั้งแรก โดยต้องเผชิญกับนักชกไทยระดับตำนานอย่าง “เต็งหนึ่ง” ผู้ผ่านศึกมาแล้วนับร้อยไฟต์ในระดับอาชีพ และเคยน็อกคู่ต่อสู้ต่างชาติรูปร่างสูงใหญ่ในรุ่นไลต์เวต (155–170 ป.) บนสังเวียนแห่งนี้มาแล้ว 1 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม หลังความพ่ายแพ้ล่าสุดที่ถูก “มักซิม บักห์ทิน” น็อกในศึก ONE ลุมพินี 121 เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา “เต็งหนึ่ง” ตัดสินใจลดเวตมาชกที่พิกัด 165 ป. เพื่อลดความเสียเปรียบด้านรูปร่างและตั้งใจเดินหน้าเก็บแต้มชัยกู้ความมั่นใจคืนมา

ด้าน “ทุน มิน ออง” แม้เป็นรองในเรื่องประสบการณ์ แต่เจ้าตัวมั่นใจแผนการของทีมที่เตรียมมา จะสามารถต้านกับอาวุธอันตรายของจอมเก๋าชาวไทยได้แน่นอน

“เต็งหนึ่ง เป็นมวยที่มีประสบการณ์สูง อาวุธหนักแรง โดยเฉพาะหมัดซ้ายกับแข้งซ้าย ผมจึงต้องเน้นที่การป้องกันตัวและหลบหลีกให้ดี เพราะผมรู้ว่าอาวุธเขาอันตรายมาก”

“แผนหลักของผมในไฟต์นี้คือการเริ่มเกมแบบสบาย ๆ ไม่กดดันในช่วงแรก และโฟกัสกับแผนที่เตรียมมา จากนั้นค่อยปรับเปลี่ยนเกมตามคำแนะนำจากพี่เลี้ยง ถ้าพี่ชายสั่งให้ลุยในยกสองหรือสาม ผมก็พร้อมเปิดเกมบู๊เต็มที่ครับ”