อเล็กซานเดอร์ โวลคอฟ ยักษ์ใหญ่จากรัสเซียแห่งศึก UFC แสดงความเชื่อมั่นว่าการฝึกซ้อมและกลยุทธ์การต่อสู้ของตัวเอง จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เอาชนะ จาอิลตอน อัลเมย์ดา จอมซับมิชชันจากบราซิล ได้สำเร็จ เพื่อต่อยอดการชิงแชมป์โลกในอนาคต ก่อนขึ้นสังเวียนภายใต้ศึก UFC 321 : ASPINALL VS GANE ณ เอติฮัต อารีนา ,เกาะยาส สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ในคืนวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคมนี้
อเล็กซานเดอร์ โวลคอฟ วัย 36 ปีเจ้าของสถิติชนะ 38 แพ้ 11 เล่าย้อนไปถึงผลงานในไฟต์ล่าสุดของตัวเองที่แพ้คะแนนให้กับ ซีริล กาน ในศึก UFC310 ท่ามกลางเครื่องหมายคำถามในมุมมองของตัวเอง โดยเปิดเผยว่า
“ไฟต์นั้นมันไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับผมมากนัก ผมแค่ได้รับบทเรียน และเริ่มทำหน้าที่ของผมสำหรับไฟต์ต่อไป มันมีการถกเถียงกันมาก ในความคิดของผม ผมคิดว่าผมชนะไฟต์ในนั้น แต่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้ ตอนนี้ผมก็แค่โฟกัสกับไฟต์ต่อไปเพื่อโชว์ผลงานให้ดีที่สุด”
ขณะเดียวกันนักสู้ร่างยักษ์จากรัสเซีย ยังกล่าวการเก็บตัวฝึกซ้อมของตัวเอง พร้อมกับพูดถึงคู่แข่งรายต่อไปอย่าง จาอิลตอน อัลเมย์ดา ที่จะดวลกันในคืนวันเสาร์นี้ว่า
“ผมซ้อมกับนักมวยปล้ำจากบราซิลมาแล้วเยอะมาก และแน่นอนว่าผมยังคงฝึกซ้อมเรื่องการออกอาวุธและ MMA ด้วย การเข้าแคมป์ครั้งนี้มีความเข้มข้นสูงมาก จริงๆแล้วผมไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องนี้ แต่ผมมีการศึกษาไฟต์ของเขา เขาไม่ชอบเกมยืนสู้และส่วนใหญ่มักจะใช้กราวน์เกม แต่คุณรู้ไหมวิธีที่เขาทำมันคาดเดาได้ เขาไม่ได้มีเทคนิคมากมายขนาดนั้นทั้งการเทคดาวน์และกราวน์เกม ดังนั้นสำหรับผมแล้วมันคาดเดาได้ เราติดตามไฟต์ของเขาเยอะมาก เรารู้ว่าเราสามารถทำอะไรได้ในเกมภาคพื้นดินบ้าง ถึงตอนนี้ผมก็แค่เตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด”
“ผมยังคงเคร่งครัดเรื่องระเบีบบวินัยมาก ผมพยายามนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่ถูกต้อง ผมแค่มีสมาธิกับการฝึกซ้อม ผมเข้าใจสิ่งที่ผมทำ ส่วนวิธีรับมือคู่แข่งสไตล์ปล้ำ ก็คือการป้องกันการเทคดาวน์ มันไม่มีอะไรมาก ผมแค่ทำงานหนัก ทำในสิ่งเดิมๆทุกวัน ผมไม่มีพลังวิเศษ มีแค่วินัยที่พร้อมจะทำงานหนัก ซึ่งนักสู้มืออาชีพทุกคนควรปฏิบัติตาม”
นอกจากนี้นักสู้ดีกรีรองแชม์หมายเลข 2 ของรุ่นเฮฟวีเวทแห่งศึก UFC ยังกล่าวถึงประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ที่ตัวเองได้รับในแต่ละไฟต์ เพื่อนำไปปรับใช้และพัฒนาตัวเอง ในเส้นทางการต่อสู้ว่า
“ทุกๆไฟต์มีความแตกต่างกัน และผมพยายามค้นหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้ตัวเองเติบโตขึ้น แต่มันแตกต่างกัน เพราะนักสู้ทุกคนมีสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน มีสิ่งเล็กๆน้อยๆที่แตกต่างกัน นี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับการต่อสู้ ดังนั้นแน่นอนว่าทุกไฟต์สำหรับผม เป็นเหมือนประสบการณ์ใหม่ ที่ผมสามารถนำไปปรับใช้ในครั้งต่อไป ผมรู้สึกดีมากที่ได้สู้กับ อัลเมย์ด้า เพราะไฟต์นี้ กราวน์เกมของผมดีขึ้นมากเดิม และเขาให้โอกาสนี้กับผม เช่นเดียวกับนักสู้คนอื่นๆที่ให้โอกาสผมได้เรียนรู้มากขึ้น”
เจ้าของฉายา Drago แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการที่ จอน โจนส์ ประกาศแขวนนวม รวมทั้งมุมมองการแข่งขันในพิกัดรุ่นเฮฟวีเวทหลังจากนี้ว่า
“ผมไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้า จอน โจนส์ ยังคงสู้อยู่ หรือบางทีเขาอาจจะกลับมาสู้กับ เปเรย์รา ผมคิดว่าการที่เขาประกาศแขวนนวมมันทำให้ นักสู้คนอื่นๆมีโอกาสชิงแชมป์ได้มากขึ้นเล็กน้อย ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มากนัก พูดตามตรง ถ้าเขาจะสู้เขาก็จะสู้ ถ้าเขาไม่สู้เขาก็ไม่สู้ ดังนั้นสำหรับผมแล้ว มันไม่ไม่เป็นเรื่องที่ผมต้องกังวลอะไร”
“ผมไม่รู้เหมือนกับว่าตอนนี้ เปเรย์ร่า กำลังจะจะขึ้นไปสู่รุ่นเฮฟวีเวทหรือเปล่า หลายสิ่งหลายอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ใน UFC ดังนั้นผมไม่รู้ ผมไม่ได้ไปไกลขนาดนั้น ผมแค่มองไปที่ไฟต์นี้ ผมแค่มีสมาธิอยู่กับไฟต์ของผมตอนนี้ แน่นอนว่าผมต้องการโอกาสชิงแชมป์ ผมคิดว่าผมสมควรได้รับมัน ผมชนะนักสู้มามากมาย และเราจะได้เห็นกัน”
สุดท้าย โวลคอฟ ได้พูดถึง แรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเส้นทางการต่อสู้ของตัวเองที่ยังคงต้องการเข็มขัดแชมป์ UFC มาประดับบารมี โดยกล่าวทิ้งท้ายว่า
“ตั้งแต่ผมเริ่มสู้ใน Bellator , MM1 ก่อนจะได้สัญญาจาก UFC ผมเป็นนักสู้ท็อปเท็นของโลกมาตลอดหลายปีและผมก็ยังอยู่ที่นี่ ยังแสดงความก้าวหน้า ยังสู้กับคนที่ดีที่สุด ความมีวินัยและทำทุกอย่างอย่างชาญฉลาด คือเหตุผลที่ผมสามารถอยู่บนจุดสูงสุดได้นานขนาดนี้ ผมภูมิใจในตัวเองมาก และทุกครั้งผมเชื่อว่าความสำเร็จที่สูงที่สุดรอคอยผมอยู่”
“ผมมีแรงจูงใจที่จะก้าวไปข้างหน้า ผมกำลังมองหาเข็มขัดแชมป์เพื่อสะสมไว้เป็นคอลเลกชัน ผมมั่นใจ 100% ว่านี่คือเป้าหมายที่ดีที่สุด ผมจะพยายามทำมันให้ได้ และมันใกล้มากผมต้องการสัมผัสมันสักครั้งในชีวิตขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่สนับสนุนผมเสมอ ผมรู้สึกถึงพลังของทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ผมพร้อมแล้ว ผมซ้อมอย่างเต็มที่ และผมจะทำให้พวกคุณได้เห็นการต่อสู้ที่พวกคุณจะไม่มีวันลืม”
สำหรับศึก UFC 321 : ASPINALL VS GANE จะระเบิดศึก ณ สังเวียน เอติฮัต อารีนา ,เกาะยาส สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ ในคืนวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคมนี้ คู่หลักของรายการเริ่มเวลา 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
แฟนหมัดมวยชาวไทยติดตามชมได้ทางช่อง TRUE SPORTS 3 (ช่อง 668)
