ทำความรู้จักเบื้องหลังความสำเร็จของโครงการ "MUAYTHAI FOR ALL" รศ.ดร.จัตุชัย และ ผศ.ดร.นาคิน สองนักวิชาการผู้ประสานภูมิปัญญากับวิทยาศาสตร์กีฬา สร้างมาตรฐานครูมวยไทย 500 คนทั่วประเทศ
เมื่อโครงการยกระดับมวยไทยแห่งชาติอย่าง “MUAYTHAI FOR ALL” เดินหน้าอย่างเข้มข้น เพื่อเป้าหมายสร้างประชากรมวยไทยนับแสนคน เบื้องหลังความเคลื่อนไหวนี้ มี “ครูของครู” เพียงไม่กี่ท่านที่ทำหน้าที่วางรากฐานทางวิชาการและมาตรฐานการสอน
ชื่อของ รองศาสตราจารย์ ดร.จัตุชัย จำปาหอม และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นาคิน คำศรี คือสองเสาหลักที่ปรากฏอยู่ในทุกเวทีอบรมครูมวย 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งรวมครูมวยและทีมงานกว่า 500 คน ที่จะนำองค์ความรู้กลับไปต่อยอดต่อไป
เราจะพาไปทำความรู้จักบทบาทของนักวิชาการทั้งสองท่าน ผู้ซึ่งทำหน้าที่สำคัญในการผลักดันมวยไทยให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมด้านกีฬาของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
รศ.ดร.จัตุชัย จำปาหอม เป็นที่รู้จักในฐานะนักวิชาการมวยไทยมายาวนาน ท่านไม่ได้เป็นเพียงอาจารย์สอนมวย แต่เป็นผู้ที่เชื่อมต่อ "ภูมิปัญญาโบราณ" ของแม่ไม้มวยไทย เข้ากับ "มาตรฐานวิชาการสมัยใหม่"
ผลงานระดับดุษฎีนิพนธ์เรื่อง “การจัดการความรู้ภูมิปัญญาไทยด้านไม้มวยไทยโบราณ” คือหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งในการนำองค์ความรู้ดั้งเดิมมาจัดทำอย่างเป็นระบบวิทยาศาสตร์
ในโครงการ MUAYTHAI FOR ALL บทบาทของท่านคือการถ่ายทอดเนื้อหาที่ครอบคลุมถึงประวัติศาสตร์และคุณค่าทางวัฒนธรรมของมวยไทย รวมถึงการวางมาตรฐานหลักสูตรการสอนอย่างเป็นระบบ ท่านทำให้ครูมวย 500 คน ไม่ได้กลับไปพร้อมแค่ท่าเตะต่อย แต่กลับไปพร้อมกับกรอบคิดและจิตสำนึกว่ากำลังทำงานบนฐานของมรดกทางวัฒนธรรมระดับชาติ
ในขณะที่ รศ.ดร.จัตุชัย อยู่ในฝั่งภูมิปัญญา ผศ.ดร.นาคิน คำศรี คือผู้ที่นำ "วิทยาศาสตร์การกีฬา การบริหารจัดการ และมาตรฐานอาชีพ" มาเสริมสร้างระบบมวยไทยให้แข็งแกร่งในระยะยาว
ท่านเป็นนักวิชาการที่เติบโตมาจากสายวิทยาศาสตร์การกีฬาโดยตรง สังกัดคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยบูรพา งานวิจัยของท่านเน้นไปที่ระบบนิเวศของมวยไทย เช่น “มาตรฐานและรูปแบบการบริหารจัดการสถาบันสอนมวยไทย” และ “สมรรถนะมาตรฐานสำหรับครูมวยไทย” ซึ่งสอดคล้องโดยตรงกับการสร้างเครือข่ายครูมวยมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
ภายใต้โครงการ ผศ.ดร.นาคิน ทำหน้าที่เป็นวิทยากรหลักในการจัดโครงสร้างหลักสูตร การบริหารจัดการค่าตอบแทน รวมถึงแนวคิดเรื่องความปลอดภัย การป้องกันการบาดเจ็บ และการวางแผนการฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบ ท่านทำให้ครูมวยรู้ว่าจะจัดการสอน จัดการค่าย และดูแลนักเรียนอย่างไร ให้สอดคล้องกับมาตรฐานประเทศได้อย่างแท้จริง
เมื่อ "ครูของครู" ทั้งสองท่านทำงานร่วมกัน รศ.ดร.จัตุชัย จะรับบทอธิบาย "แก่น" ของมวยไทย ขณะที่ ผศ.ดร.นาคิน รับบท "นักออกแบบระบบ" ที่เปลี่ยนวิสัยทัศน์เหล่านั้นให้กลายเป็นหลักสูตรและสมรรถนะครูมวยที่ปฏิบัติได้จริง
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นการสร้างเครือข่ายครูมวยมืออาชีพ 500 คน ที่มีฐานความรู้ทั้งด้านวัฒนธรรม วิทยาศาสตร์การกีฬา และการจัดการในระดับเดียวกัน พวกเขาทั้งสองคือผู้กำกับเบื้องหลังที่คอยดูแลให้ระบบมวยไทยของประเทศเดินหน้าอย่างสวยงาม มั่นคง และไม่หลุดจากแก่นแท้ของมวยไทย
