ตำนานรัก (บ้านเกิด) สุดโรแมนติก

นี่เป็นอีกครั้งที่เรื่องราวของ กาซอร์ล่า สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน และครั้งนี้เกิดขึ้นกับสโมสรที่ปลุกปั้นเขาขึ้นมาตั้งแต่เป็นเด็กตัวกะเปี้ยก
กาซอร์ล่า เริ่มในทีมเยาวชนของ โอเบียโด้ ระหว่างปี 1996-2003 ก่อนย้ายสู่ บียาร์เรอัล ที่ได้เล่นอาชีพครั้งแรกต่อด้วย มาลาก้า และมาอยู่กับ อาร์เซน่อล ในปี 2012 ที่กลายเป็นแกนหลักในทีมของกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ ทันที
3 ฤดูกาลแรกกับทีมปืนใหญ่ กาซอร์ล่า โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ลงเล่นร่วมถึง 148 นัดในทุกรายการ ยิงได้ 29 ประตู และ 37 แอสซิสต์ พาทีมได้แชมป์เอฟเอ คัพ และคอมมิวนิตี้ ชิลด์ อย่างละ 2 สมัย กลายเป็นนักเตะที่แฟนบอลหลงรักอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม กองกลางจอมเทคนิคเริ่มประสบปัญหาบาดเจ็บรบกวน และต้องเข้ารับการผ่าตัดเอ็นร้อยหวายในปลายปี 2016 ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งฝันร้าย
เขาต้องผ่าตัดรวมทั้งหมด 8 ครั้ง ทว่าอาการไม่ดีขึ้นเมื่อเชื้อแบคทีเรียกัดกินเส้นเอ็นไปแล้วบางส่วน เนื้อบริเวณผ่าตัดเน่าเปื่อยจากการลุกลาม ในตอนนั้นเป็นที่หวั่นวิตกกันว่าเขาอาจต้องตัดขาทิ้ง และกลับมาเดินไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ท้ายสุด กาซอร์ล่า ต้องรับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะและต้องปลูกถ่ายผิวหนัง โดยนำผิวหนังจากแขนซ้ายซึ่งมีรอยสักชื่อลูกสาวมาปะบริเวณบาดแผลที่เท้า
ผิวหนังที่สักชื่อลูกสาวถูกย้ายมาแปะบาดแผลที่ส้นเท้า
กาซอร์ล่า ต้องพักฟื้่นอยู่นานและไม่ได้เล่นให้ อาร์เซน่อล อีกเลยในช่วง 18 เดือนสุดท้ายของสัญญาที่หมดลงในซัมเมอร์ 2018 และต้องแยกทางกันในที่สุด
ในวัย 33 ปีที่ผ่านมีดหมอจนข้อเท้าแทบไม่เหลือชิ้นดี การกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้งเป็นเรื่องยากมาก แต่ กาซอร์ล่า ทำได้ เขาไปขอซ้อมกับ อลาเบส และ บียาร์เรอัล จนพิสูจน์ให้เห็นถึงความฟิตและได้สัญญาอาชีพอีกครั้งจาก บียาร์เรอัล
ในการเล่นให้ทัพเรือดำน้ำสีเหลือง กาซอร์ล่า กลับมาเกิดใหม่ด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมและได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องรวม 86 นัดใน 2 ฤดูกาล ยิงได้ถึง 22 ประตู และ 22 แอสซิสต์ รวมถึงกลับไปติดทีมชาติสเปนเป็นครั้งแรกในรอบ 1,302 วัน
จากนั้น กาซอร์ล่า ย้ายไปเล่นให้ อัล ซาดด์ ในลีกกาตาร์เพื่อร่วมงานกับ ชาบี เอร์นานเดซ ที่เป็นกุนซือ ก่อนกวาดแชมป์ถึง 6 รายการ รวมถึงได้นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรอีก 1 สมัย
ด้วยอายุที่ปาเข้าไป 38 ปี กาซอร์ล่า สามารถรีไทร์ได้แบบสวยงามเพราะทำให้ทุกคนได้เห็นไปแล้วในการกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้งทั้งที่ผ่าตัดไปหลายรอบ ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์ว่าหัวใจต้องแกร่งเพียงใด
ทว่าเขาเลือกลุยต่อกับทีมบ้านเกิดที่เขารักสุดหัวใจอย่าง เรอัล โอเบียโด้ ที่ตอนนั้นอยู่ในลีกเซกุนด้า หรือ ดิวิชั่น 2 สเปน และเพิ่งจบฤดูกาล 2022/23 ในอันดับ 9 ของตาราง
ชีวิตนี้เพื่อ เรอัล โอเบียโด้
กาซอร์ล่า เป็นติดต่อสโมสรขอร่วมทีมเอง และเล่นให้ "ฟรี" ไม่รับค่าเหนื่อย ทว่าเพื่อให้เป็นไปตามกฎของลีก เขาจึงยอมรับตามเกณฑ์ต่ำสุดเพียงปีละ 91,000 ยูโร
นอกจากนี้ เจ้าตัวยังได้สละไม่รับค่าลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์จากสโมสร โดยขอเพียงเงื่อนไขเดียวคือแบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์จากยอดขาดเสื้อของเขาไปลงทุนกับเยาวชนของสโมสร
"โชคดีที่ผมมีอาชีพที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ผมไม่อยากเป็นภาระของสโมสรเลยแม้แต่น้อย ผมพอใจกับเงื่อนไขเหล่านี้มากจริงๆ แล้วผมยินดีจะเล่นฟรีด้วยซ้ำ แต่เราต้องเคารพกฎระเบียบ"
"การกลับมาที่ โอเบียโด้ สโมสรที่ผมใฝ่ฝันอยากเล่นให้ตั้งแต่เด็ก มันอยู่ในใจผมมานาน ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว และพยายามช่วยในทุกทางที่ทำได้" กาซอร์ล่า กล่าวถึงความฝันสุดท้ายในอาชีพนักฟุตบอล
ตำนานรักบ้านเกิดจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง
ในฤดูกาลแรกกับ โอเบียโด้ กาซอร์ล่า ลงเล่นไป 24 นัดในลีก ทำไป 4 แอสซิสต์ ช่วยทีมขยับขึ้นมาจบอันดับ 6 ได้สิทธิ์เพลย์ออฟที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศก่อนพ่ายต่อ เอสปันญ่อล ไปอย่างน่าเสียดาย
ฤดูกาลต่อมา กาซอร์ล่า ไม่เจออาการบาดเจ็บรบกวนทำให้ได้ช่วยทีมมากขึ้นลงเล่นไป 32 นัดในลีก พร้อมด้วยผลงาน 3 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ พาทีมจบอันดับ 6 ได้เพลย์ออฟลุ้นขึ้นลา ลีกา อีกครั้ง
โอเบียโด้ และ กาซอร์ล่า ไม่พลาดในโอกาสครั้งที่สอง พวกเขาเริ่มต้นด้วยการเอาชนะ อัลเมเรีย สกอร์รวมสองนัด 3-2 ในรอบตัดเชือก โดยที่ กาซอร์ล่า ทำประตูสำคัญซัดฟรีคิกตีเสมอ 1-1 ในนัดสองซึ่งกลายเป็นประตูที่ส่งให้ทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
รอบชิงชนะเลิศที่แย่งตั๋วใบสุดท้ายขึ้นลา ลีกา โอเบียโด้ พบกับ มิรันเดส ซึ่งนัดแรก กาซอร์ล่า ไม่ได้ช่วยทีมเพราะบาดเจ็บและ โอเบียโด้ ก็แพ้ไปก่อน 0-1
แต่นัดสอง ยอดคนหัวใจแกร่งฟิตกลับมาลงสนามในฐานะตัวจริงอีกครั้งซึ่งนับเป็นข่าวดีของทีม และเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวังเมื่อเป็นคนซัดจุดโทษช่วยทีมตีเสมอ 1-1 ในครึ่งแรก ก่อนทีมยิงแซง 2-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ
แม้ว่า กาซอร์ล่า ถูกเปลี่ยนตัวออกไปแล้วในช่วงต่อเวลา แต่เพื่อนร่วมทีม โอเบียโด้ ก็ลุยกันต่อจนได้ประตูชัยจากตัวสำรอง ปอร์ตีโญ่ ทำให้ชนะไป 3-1 (ผลรวม 3-2) ได้ตั๋วเลื่อนชั้นขึ้นลา ลีกา ฤดูกาล 2025/26 ในที่สุด
สิ้นเสียงนกหวีดจากผู้ตัดสิน แฟนบอล โอเบียโด้ วิ่งกรูลงสนามเพื่อฉลองกับช่วงเวลาแห่งความสุขที่ทีมรักได้ขึ้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 24 หรือนับตั้งแต่ปี 2001
แฟนบอลส่วนใหญ่สวมเสื้อ S.CAZORLA อยู่ด้านหลัง ไม่มีครั้งไหนที่พวกเขาได้ภูมิใจกับนักเตะคนโปรดมากเท่านี้อีกแล้ว
ใครจะเชื่อว่านักเตะที่อายุมากถึง 40 ปี จะพาทีมเลื่อนชั้นอีกครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ทีมอยู่ลีกสูงสุดก็คือตอนที่ตัวเขายังอยู่ในทีมเยาวชน เป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะพัฒนาฝีเท้าเป็นนักเตะอาชีพได้หรือไม่
กาซอร์ล่า มีความฝันตั้งแต่เด็กอยากเล่นให้ชุดใหญ่ของ โอเบียโด้ แต่สโมสรมีปัญหาทางการเงินและเขาก็ถูกปล่อยตัวตั้งแต่ตอนอยู่ในทีมเยาวชน
วันนี้ กาซอร์ล่า ไม่เพียงเติมเต็มความฝันของตัวเองได้เล่นให้ทีมรัก แต่ยังทำฝันของแฟนบอลทั้งเมืองให้เป็นจริง และมันจะกลายเป็นทรงจำของทุกคนไปตลอดกาล
นี่คือตำนานรัก (บ้านเกิด) ที่สุดคลาสสิกและโรแมนติกอย่างแท้จริง