เล่นไม่ดีแต่ชนะ

มิเกล อาร์เตต้า ยอมรับหลังเกมว่าลูกทีมทำผลงานไม่ดี เช่นเดียวกับความเห็นของลูกทีม รวมไปถึงแฟนบอลหลายคนที่มองไม่ต่างกัน
แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นได้ดีกว่า ครองเกมมากกว่าที่ 61% สร้างโอกาสลุ้นประตูได้ถึง 22 ครั้ง แต่ว่าไม่สามารถส่งบอลตุงตาข่ายได้
ขณะที่ประตูเดียวของ อาร์เซน่อล มาจากทีเด็ดเซตพีซซึ่งเป็นการทำประตูจากลูกเตะมุมลูกที่ 31 ในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ฤดูกาล 2323/24 แน่นอนว่ามากกว่าทุกทีมในลีก
นัดนี้ อาร์เซน่อล ส่งแข้งใหม่ลงตัวจริง 2 รายคือ วิคตอร์ โยเคเรส ในตำแหน่งหน้าเป้า และ มาร์ติน ซูบีเมนดี้ ปักหลักกลางรับ
ตลอดช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา อาร์เซน่อล พยายามปรับเกมรุกให้ "ไดเรกต์" มากขึ้น ต้องการโจมตีคู่แข่งให้รวดเร็ว และเอาบอลเข้าพื้นที่อันตรายให้ไว ไม่ใช่เน้นแต่ครองบอล และเคาะวนไปมาเป็นเกือกม้าหน้าเขตโทษ
วิธีการเล่นปรับเปลี่ยนก็เพื่อดึงศักยภาพของ โยเคเรส ออกมาให้ได้มากที่สุด
แต่เกมประเดิมพรีเมียร์ลีกของ โยเคเรส ยังดูไม่เข้าที่เข้าทางนักทั้งเรื่องฟิตเนส และความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีมซึ่ง อาร์เตต้า ก็ยอมรับว่าต้องใช้เวลาในการปรับตัว
ประตูตัดสินเกมจากลูกโหม่งของ คาลาฟิออรี่
หัวหอกเจ้าของค่าตัวรวม 64 ล้านปอนด์ ไม่มีโอกาสลุ้นยิงประตูแม้แต่ครั้งเดียวตลอด 60 นาทีในสนาม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 69 นัดเลยทีเดียวที่ไม่ได้ง้างเท้าสับไก
เขาแทบไม่ได้รับบอลในเขตโทษจากการเปิดของเพื่อนร่วมทีม และจังหวะที่ต่อบอลได้บ้างคือการสลัดหนีการประกบของ มัทไธต์ เดอ ลิก ออกไปด้านขวาแล้วเป็นคนเปิดบอลกลับเข้ามาในเขตโทษซึ่งสร้างโอกาสให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ได้ตีลังกายิงแต่โดนไม่เต็ม ส่วนอีกครั้งเปิดออกด้านข้างอีกฝั่งไปเลย
อาร์เตต้า พูดเองเลยว่าทีมพลาดโอกาสหลายครั้งในการแทงบอลทะลุแนวรับเจ้าถิ่นเพื่อให้ โยเคเรส ได้ใช้ความเร็วและจบสกอร์ได้
"ผมจำได้ว่ามีประมาณ 7-8 จังหวะที่เราสามารถแทงทะลุแนวรับเข้าไปลุ้นจบสกอร์ได้เลย แต่เรากลับจ่ายพลาด และเกมเปลี่ยนเป็นลักษณะเหมือนบาสเกตบอล คือรุกสลับรับไปมา ซึ่งเป็นสถานการณ์อันตรายมากโดยเฉพาะเวลาเจอกับทีมที่มีความเฉียบคมในการจบสกอร์อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด" อาร์เตต้า กล่าว
เกมรุก อาร์เซน่อล ทำเสียเองในจังหวะสุดท้ายทั้งจาก มาร์ติน โอเดการ์ด, บูคาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่สลับกันได้พาบอลเล่นโต้กลับ แต่เมื่อเข้าพื้นที่อันตรายก็จ่ายติดกองหลังเจ้าถิ่น หรือไม่ก็ผ่านบอลแรงเกินไป
นัดแรกของ โยเคเรส ค่อนข้างเงียบ
ส่วนเกมรับก็เจองานหนักไม่น้อยโดยเฉพาะต้องรับมือสองตัวใหม่ผีแดงทั้ง ไบรอัน เอ็มเบอโม่ และ มาเตอุส กุนย่า ที่เล่นได้ดีมาก
เอ็มเบอโม่ โจมตีเกมรับฝั่งซ้ายของปืนใหญ่ได้หลายครั้ง อดีตแข้ง เบรนท์ฟอร์ด มีทั้งเทคนิคและความสามารถในการพักบอลแล้วพลิกขึ้นหน้าไปลุ้นเปิดหรือยิงได้ตลอด
ขณะที่ กุนย่า ช่วงแรกไม่เด่นเท่า เอ็มเบอโม่ แต่ก็มีช็อตไล่เพรสจน ดาบิด ราย่า เกือบเสียบอล พอเข้าสู่ 15 นาทีสุดท้ายครึ่งแรกก็หาโอกาสลุ้นยิงได้ถึง 3 ครั้งซึ่งรวมถึงซัดมุมแคบติดเซฟปลายมือ ราย่า และโซโล่คนเดียวมาจากหน้าเขตโทษตัวเองจนได้ยิงในเขตโทษ อาร์เซน่อล
ผลงานของ เอ็มเบอโม่ และ กุนย่า ทำให้มิติในเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูอันตรายขึ้นในฤดูกาลนี้ ไม่ใช่บอลไปถึงพื้นที่สุดท้ายแล้วทำอะไรต่อไม่ได้ ต้องกระเด้งกลับไปเซตกันใหม่ข้างหลัง
เกมรุกของผีแดงโจมตีปืนใหญ่ได้น้ำได้เนื้อมากกว่า มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยความกระหาย หากไม่นับผลการแข่งขันที่แพ้น่าเสียดาย วิธีการเล่นของทีมทำให้แฟนบอลมีความหวังขึ้นอย่างมาก หลังจากห่อเหี่ยวขั้นสุดในฤดูกาลที่แล้ว
ส่วน อาร์เซน่อล มีจุดต้องปรับมากมาย โยเคเรส ต้องจับจังหวะการเล่นกับเพื่อนร่วมทีมให้ได้เร็วที่สุด และเพื่อนร่วมทีมเองก็ต้องปรับตัวเช่นกันหลังเปลี่ยนตัวเป้าจาก ไค ฮาแวร์ตซ์ มาเป็น โยเคเรส และการเล่นแบบเดิมๆ ก้มหน้าก้มตามุดอย่างเดียวแบบ มาร์ติเนลลี ต้องลดลง และต้องหาทางส่งบอลไปถึงหน้าเป้าให้ได้
ไม่ใช่เกมที่ดีของ อาร์เซน่อล และต่ำกว่ามาตฐานที่ควรจะเป็น แต่การชนะกลับออกมาก็สำคัญอย่างยิ่ง
"นั่นแหละคือสิ่งที่ช่วยสร้างโมเมนตัมและความมั่นใจ ซึ่งเป็นสองสิ่งที่สำคัญมาก เพราะแม้วันนี้เราจะไม่ได้เล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเอง แต่เรายังหาทางเอาชนะได้" อาร์เตต้า กล่าว
"ทีมต้องมีความแข็งแกร่งแบบนี้ตลอดทั้งฤดูกาล ต้องเจอกับสถานการณ์ที่หลากหลายตลอด 10 เดือน"
"แน่นอนเรายังมีอะไรให้ปรับปรุงอีกเยอะ และมันจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ แต่การที่เริ่มต้นด้วยผลลัพธ์ที่ดีแม้เล่นไม่ดี ถือเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม"
อีกสิ่งที่ต้องไม่ลืมคือ การมาเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่เคยเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าสถานการณ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นเช่นไรก็ตาม ขนาดในวันที่ อาร์เซน่อล เล่นได้ดีมากตอนมีลุ้นแชมป์ฤดูกาล 2022/23 ก็ยังแพ้กลับออกไป 1-3
ก่อน อาร์เตต้า เข้ามาคุม อาร์เซน่อล ชัยชนะหนล่าสุดที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้องย้อนไปไกลถึงปี 2006 นู้นเลย อาร์เตต้า คือคนที่พาทีมบุกชนะได้อีกครั้งในปี 2020 หรืออีก 14 ปีต่อมา
ฟอร์มการเล่นของ อาร์เซน่อล ในเกมเปิดหัวฤดูกาลใหม่ถือว่าห่างไกลกับการเป็นทีมลุ้นแชมป์ เป็นการเล่นที่มีเครื่องหมายคำถามอยู่มากมาย
แต่อย่างน้อยก็แสดงหนึ่งในคุณสมบัติที่เป็นสัญญาณที่ดีออกมาให้เห็น
"เล่นไม่ดีแต่ชนะได้"