8 แข้งสิงห์กับทีมยอดเยี่ยมฟิฟโปร
 
            นักเตะที่อยู่ในทีมชุดนี้จะมาจากการโหวตของบรรดานักฟุตบอลด้วยกันกว่า 26,000 คน จาก 68 ประเทศทั่วโล โดยอิงจากผลงานนับตั้งแต่วันที่ 15 กรกฏาคม 2024 ถึง 3 สิงหาคม 2025
ถ้าตีให้เข้าใจง่ายก็คือผลงานในฤดูกาล 2024/25 ของบรรดาลีกชั้นนำของยุโรปนั้นเอง
ปีนี้ทัพ "สิงห์บลูส์" มีแข้งส่งเข้าประกวดคนเดียวและจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก โคล พาลเมอร์ และนับตั้งแต่มีการประกาศรางวัลนี้เมื่อปี 2005 มีนักเตะของ เชลซี ติดทีมมาแล้วทั้งสิ้น 8 ราย
วันนี้ไปดูกันว่าทั้ง 8 ตำนานที่ว่ามีใครกันบ้าง
จอห์น เทอร์รี่ - 2005, 2006, 2007, 2008, 2009

อดีตกัปตันทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของสโมสรได้รับการยกย่องอย่างสูงจากเพื่อนร่วมอาชีพ เห็นได้ชัดจากการติดทีมตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการจัดงาน และอยู่ในทีมรวดถึง 5 ปีติดต่อกันด้วย
ช่วเงวลาดังกล่าง "สิงห์บลูส์" ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 ครั้ง รวมถึงการเข้ารอบตัดเชือกอีก 3 ครั้ง โดยที่ จอห์น เทอร์รี่ คือหัวใจสำคัญในเกมรับ
แฟร้งค์ แลมพาร์ด - 2005

ฟอร์มการเล่นของมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ในฤดูกาล 2004/05 ที่ทีมเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถือเป็นการยกระดับมาตรญานของนักเตะในตำแหน่งกองกลางไปเล่ยด้วยการซัดไป 13 ประตูจาก 38 เกม โดยรวมกดไป 19 ลูกจาก 58 นัดทุกรายการ
ขณะที่ในเวทียุโรป ทีมเขาถึงรอบรองชนะเลิศ โดยที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด สอยตาข่ายใส่ยอดทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค และ บาร์เซโลน่า ได้ด้วย
โคล้ด มาเกเลเล่ - 2005
คู่หูในแดนกลางของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่คอยปัดกวาดอยู่หน้าแผงหลังทำให้เพื่อนสามารถเติมขึ้นไปเล่นเกมรุกได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องห่วงถอยลงมาช่วยเกมรับ
และด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเขาทำให้ชื่อของ โคล้ด มาเกเลเล่ อยู่ในทีมยอดเยี่ยม ฟิฟโปร ที่มีการประกาศเป็นครั้งแรกกับเขาด้วย
 
  
ดิดิเยร์ ดร็อกบา - 2007
สตาร์ทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ยกระดับมาเป็นสุดยอดกองหน้าของโลกตั้งแต่ปีแรกในการย้ายมาเล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ และในฤดูกาล 2006/07 เขาระเบิดฟอร์มกด 33 ประตูจาก 60 เกมในทุกรายการ
ในจำนวนนั้น 20 ประตูเกิดขึ้นใน พรีเมียร์ลีก ทำให้เขาคว้ารางวัลรองเท้าทองคำไปครอง นอกจากนี้เขายิงยังประตูได้ในเกมชิงชนะเลิศบอลถ้วยทั้ง เอฟเอ คัพ และ ลีก คัพ ที่ทีมเป็นแชมป์อีกด้วย เพราะฉะนั้นไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงอยู่ในทีมด้วย
ดาวิด ลุยซ์ - 2014

กองหลังในแบบยุค "โมเดิร์น" ที่ไม่ได้มีดีแค่การเล่นเกมรับด้วยความดุดัน สตาร์ชาวบราซิล ยังมีทีเด็ดในการเติมเกมรุก แถมยิงประตูได้ดีด้วย
ฤดูกาลสุดท้ายกับ เชลซี ในการค้าแข้งรอบแรก (2011-14) เขาโชว์ฟอร์มน่าประทับใจ และยังมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก 2014 ซึ่งเขาติดทีมฟิฟโปร์ในตำแหน่งเซนเตอร์คู่กับเพื่อนร่วมชาติอย่าง ติอาโก้ ซิลวา
เอแด็น อาซาร์ - 2018, 2019

หนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลของ เชลซี ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในอาชีพเกิดขึ้นในรั้ว สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดย 7 ปีกับสโมสรเขาลงเล่น 352 เกม ทำไป 110 ประตูกับ 88 แอสซิสต์
ฤดูกาล 2017/18 และ 2018/19 ที่สตาร์ทีมชาติเบลเยี่ยม ติดทีมฟิฟโปร เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น รวมถึงทำประตูชัยให้ทีมชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ 2018 และยิงประตูได้ในเกมชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก ที่ทีมชนะ อาร์เซน่อล 4-1 ด้วย
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ - 2018, 2021
อยู่ในทีมปี 2018 ชุดเดียวกับ เอแด็น อาซาร์ โดยในปีนั้นเต็มไปด้วยยอดแข้งทั้ง ลูก้า โมดริช, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ลิโอเนล เมสซี่, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, ดานี่ อัลเวส, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เชโล่ และ ดาบิด เด เคอา
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ได้รับการยกย่องเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลกช่วงพีคกับ เชลซี และติดทีมอีกครั้งในปี 2021 โดยปีนี้เขาช่วยทีมคว้าโทรฟี่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยลงเล่นครบทั้ง 13 เกมด้วย
 
  
จอร์จินโญ่ - 2021
คู่หูในแดนกลางของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ในทัพ "สิงห์บลูส์" โดยมีหลายเกมในฤดูกาล 2020/21 ที่เขาสวมปลอกแขนกัปตันนำทีมลงสนามด้วย
ตลอดทั้งฤดูกาล จอร์จินโญ่ ทำไป 8 ประตู ช่วยทีมเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยลงเล่น 12 จาก 13 เกม พลาดนัดเดียวที่ติดโทษแบนนัดเจอ แอตเลติโก มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่ 2
แต่ทีเด็ดคือศึกยูโร ที่เลื่อนการแข่งขันมาจากการระบาดของไวรัสโควิด ที่เขาลงเล่นครงทั้ง 7 เกมช่วย อิตาลี คว้าแชมป์ไปครองอย่างยิ่งใหญ่

 
             
         
        
 
                 
                 
                 
                 
                 
                